“สามแข้งเยาวชนไทย” เผยสุดยอดความประทับใจ ‘โค้ก’
เมื่อเร็วๆ นี้ “โค้ก” โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย เครื่องดื่มยอดนิยมของไทยและทั่วโลก ตัวจริงด้านการสนับสนุนการเล่นกีฬา สนับสนุน 3 นักฟุตบอลเยาวชนไทยเข้าร่วม “โคปา โคคา-โคลา แคมป์ 2016” ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยตัวแทนทั้งสามได้เปิดเผยประสบการณ์และความประทับใจจากการได้เป็นส่วนหนึ่งของเยาวชน 80 คน จาก 19 ประเทศทั่วโลกที่ได้มาร่วมกิจกรรมในค่ายฟุตบอลเยาวชนนานาชาติแห่งนี้
ซึ่ง 3 ตัวแทนนักฟุตบอลเยาวชนไทย ได้แก่ เด็กชายภัทร สร้อยมาลัย วัย 14 ปี จากจังหวัดสกลนคร, เด็กชายสุรชัย จงประสิทธิ์ วัย 14 ปี จากจังหวัดระนอง และนายปุรเชษฐ์ ทอดสนิท วัย 15 ปี จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้การดูแลของทีมงานโคคา-โคลา ประเทศไทย นำโดย เพ็ญวดี ดำนุ้ย มาร์เก็ตติ้ง โปรเจ็กต์ เมเนเจอร์ บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด
โดยเพ็ญวดี เปิดเผยว่า “โคคา-โคลา ประเทศไทย สนับสนุนตัวแทนนักฟุตบอลเยาวชนไทย เข้าร่วมกิจกรรม ‘โคปา โคคา-โคลา แคมป์’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักฟุตบอลเยาวชนไทยได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง ผ่านการฝึกซ้อมเทคนิคการเล่นฟุตบอลกับทีมงานมืออาชีพระดับโลก โดยในปีนี้มี ‘ซาบี้ เออร์นานเดซ’ มิดฟิลด์ คนสำคัญของบาเซโลน่า มาร่วมลงสนามฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิดอีกด้วย”
ตลอดระยะเวลาในค่ายฟุตบอลเยาวชน “โคปา โคคา-โคลา แคมป์ 2016” ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นักเตะเยาวชนไทยได้ร่วมกิจกรรมสุดพิเศษต่างๆ อาทิ ฝึกซ้อมเทคนิคฟุตบอล ภายใต้การดูแลของทีมงานมืออาชีพระดับโลก, แข่งฟุตบอลแมทช์กระชับมิตร เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างนักฟุตบอลเยาวชนหลากหลายเชื้อชาติ, ทัศนศึกษากรุงปารีส เยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์ มีไฮไลท์สำคัญคือ “หอไอเฟล และล่องเรือแม่น้ำเซน” (Seine River) ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมืองปารีส และ ร่วมรับชมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 (UEFA EURO CUP 2016) รอบ 8 ทีมสุดท้าย (คู่ฝรั่งเศส-ไอซ์แลนด์) ณ สนามกีฬาสต๊าด เดอ ฟรองซ์
ทั้งนี้ สามตัวแทนนักฟุตบอลเยาวชนไทย ได้เปิดเผยความรู้สึกประทับใจในการเดินทางไปร่วมกิจกรรมค่ายฟุตบอลเยาวชน “โคปา โคคา-โคลา แคมป์” อันเป็นสุดยอดความใฝ่ฝันของเยาวชนทั่วโลก โดยทั้งสามต่างรู้สึกว่า นี่คือประสบการณ์สุดพิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหน
ภัทร สร้อยมาลัย กองหน้าอนาคตไกล กล่าวว่า “การได้ไปร่วมค่ายครั้งนี้ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กับผมมากครับ ผมได้เจอเพื่อนนักเตะเยาวชนจากชาติอื่นๆ ในเรื่องทักษะเขาจะมีลูกเล่นและเทคนิคที่แตกต่างจากเมืองไทย เช่น เทคนิคการส่งบอล วิธีการหาช่องส่งบอล นอกจากนี้ ผมยังรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษที่ ‘ซาบี้ เออร์นานเดซ’ ให้ความเป็นกันเองและร่วมลงสนามฝึกซ้อมถ่ายทอดเทคนิคการเล่นฟุตบอลให้อย่างเต็มที่ และผมยังประทับใจการแข่งฟุตบอลแมทซ์กระชับมิตร ที่แบ่งนักเตะเยาวชนออกเป็นทั้งหมด 8 กลุ่ม ทำให้ผมได้ลองเล่นกับเพื่อนๆ ต่างชาติมากมาย นับเป็นมิตรภาพอันอบอุ่นที่ผมจะไม่มีวันลืมครับ”
สุรชัย จงประสิทธิ์ กองกลางดาวรุ่ง กล่าวว่า “ผมดีใจมากที่มีโอกาสได้เห็นลีลาการเล่นของนักเตะมืออาชีพระดับโลกอย่างใกล้ชิด จากการเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลแมตช์สำคัญระดับโลกอย่าง ‘ฟุตบอล ยูโร 2016 รอบคัดเลือก 8 ทีมสุดท้าย คู่ฝรั่งเศส-ไอซ์แลนด์’ ถือเป็นโอกาสล้ำค่าที่หาไม่ได้ง่ายๆ ผมต้องขอบคุณ ‘โค้ก’ ที่ให้การสนับสนุนโครงการและกิจกรรมดีๆ ด้านกีฬาฟุตบอล รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผมได้สัมผัสกับประสบการณ์พิเศษครั้งหนึ่งในชีวิต การได้เข้าร่วมกิจกรรม ‘โคปา โคคา-โคลา แคมป์’ ทำให้รู้สึกมีแรงผลักดัน ให้ผมมุ่งมั่นและมีแรงบันดาลใจในการทำสิ่งที่ตัวเองรักต่อไปครับ”
ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท กองกลางตัวรุก กล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นและประทับใจมากครับ ในแต่ละวันมีกิจกรรมเกี่ยวกับการฝึกซ้อมที่แตกต่างกัน เช่น การปิดตาเตะบอล ที่ช่วยส่งเสริมทักษะการฟังและสมาธิได้เป็นอย่างดี โดยเวลาเล่นจะต้องใช้ผ้าปิดตาเตะลูกบอลที่มีกระดิ่งอยู่ข้างในอีกกิจกรรมหนึ่งที่ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษคือการเตะฟุตบอลเรืองแสง เป็นกิจกรรมตอนกลางคืนซึ่งมืดมากๆ ครับ โดยอุปกรณ์ทุกอย่างจะติดไฟไว้ ทำให้สามารถเรืองแสงได้ ตั้งแต่ชุดนักกีฬา และลูกฟุตบอล กิจกรรมนี้ช่วยเสริมทักษะด้านสายตา ซึ่งผมตั้งใจว่าหลังจากกลับมาเมืองไทย ผมจะนำเทคนิคที่ได้เรียนรู้นี้มา มาบอกต่อเพื่อนนักเตะเยาวชนคนอื่นๆ ต่อไปครับ”
“โค้กเชื่อว่า ‘โคปา โคคา-โคลา แคมป์’ เป็นมากกว่าเกมกีฬา ที่ปลูกฝังแนวคิดการทำงานเป็นทีมและการสร้างมิตรภาพผ่านการเล่นฟุตบอล ซึ่งโค้กรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนเรียนรู้ที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเองและส่งต่อความรู้ที่เก็บเกี่ยวจากค่ายฟุตบอลระดับโลก ในครั้งนี้ให้แก่นักเตะเยาวชนไทย โดยในอนาคตเราจะมุ่งมั่นสานต่อโครงการดีๆ อย่าง ‘โคปา โคคา-โคลา แคมป์’ และกิจกรรมเพื่อสังคมอื่นๆ ต่อไป” เพ็ญวดี กล่าวปิดท้าย
