web analytics

ติดต่อเรา

โฮบาร์ท ประเทศไทย เร่งเครื่องลุยตลาด CLMV

โฮบาร์ท ประเทศไทย เร่งเครื่องลุยตลาด CLMV เจาะกลุ่มเวียดนาม และพม่า รองรับการขยายตัวในภูมิภาค หลังเปิด AEC พร้อมส่ง SOMAT เครื่องแปรขยะอาหารเป็นผงธุลีดิน ใหม่ล่าสุด เข้าร่วมเปิดตัวครั้งแรกในเอเซีย ที่ประเทศไทยในงาน SETA 2016 ไบเทค บางนา

โฮบาร์ท (ประเทศไทย) ตอกย้ำศักยภาพเศรษฐกิจโดยรวมประเทศในแถบอินโดจีนไทย มีศักยภาพความเป็นศูนย์กลางและมีมาตรฐานสูงสุดโดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องประกอบอาหาร และเทคโนโลยีใหม่ ด้านกรีน อินโนเวชั่น เน้นตัวแทนน้อยแต่เป็นมืออาชีพในบริการทั่วถึง โดยระบุว่าเวียดนามมีความน่าสนใจในการรุกตลาดมากที่สุด ด้วยมี GDP 1 ใน 3 ของไทย

วิวัฒน์ วงศ์พิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทยและภาคพื้นอินโดจีน บริษัท โฮบาร์ท (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ CLMV มีแนวโน้มขยายตัวดีต่อเนื่อง มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งแรงงานที่มีค่าจ้างไม่สูงมากนัก จึงทำให้กลุ่มประเทศ CLMV เป็นทั้งแหล่งผลิตและตลาดใหม่ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ถือว่าเป็นโอกาสและอุปสรรค เนื่องด้วยมี Foreign Direct Investment มากขึ้นในประเทศไทย กัมพูชา สปป.ลาว  เมียนมาร์และเวียดนาม ที่ทำให้มีโครงการห้าดาวประมูลกันมากมาย จึงเป็นโอกาสของประเทศไทยที่มีศักยภาพ ความเป็นศูนย์กลางที่สุดและมีมาตรฐานสูงสุดในเครื่องประกอบอาหารที่น่าจะโดดเด่นที่สุดใน AEC แต่ก็มีบ้างที่บางโครงการอาจนำสินค้าเข้ามาเองใน CLMV แล้วทิ้งงานบริการให้ตัวแทนของโฮบาร์ทดูแลอย่างจำกัดทรัพยากร

อีกทั้งการเปิด AEC ทำให้การแข่งขันระหว่างตัวแทนจำหน่ายสูงขึ้นเนื่องจากทุกตัวแทนจำหน่ายสามารถไปแข่งขันได้ทุกที่ เนื่องจากเป็นประเทศ AEC เดียวกัน อย่างไรก็ดี เพื่อตอบสนองการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นจากการเติบโตของตลาด T+CLMV ในปีนี้ โฮบาร์ท ประเทศไทยยังคงยึดถือแนวทาง Sustainable Development เป็นหลัก คือไม่ต้องมีตัวแทนจำนวนมาก มีเพียงน้อยรายแต่มีศักยภาพในองค์กรธุรกิจที่สำคัญ คือต้องมีความเป็นมืออาชีพในการบริการทั่วถึง ในทุกที่ ทุกเวลา โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่มีมูลค่า GDP ขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของไทย รองลงมาได้แก่ เมียนมาร์ และ กัมพูชา ที่มีตลาดไฮเอนด์ห้าดาวที่มีศักยภาพโดยเฉพาะในเขตเมืองท่องเที่ยวที่มีการเปิดตัวของภัตตาคาร โรงแรม รีสอร์ท สปา และคาสิโน อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งใน กรุงพนมเปญ และเสียมเรียบ อีกทั้ง ยังมี Food Chain ของไมเนอร์กรุ๊ปที่เข้ามาปักหลักทำตลาดและเปิดตัวร้านค้าอย่างจริงจังมาก่อนแล้วหลายปี ในขณะที่ตลาดเมียนมาร์หรือพม่านั้น เริ่มเกิดอย่างจริงจังเป็น Baby Boom ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา  โดยเพิ่งจะมีโรงแรมห้าดาว อย่างเช่น NOVOTEL ที่เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ที่กรุงย่างกุ้ง และเคมปินสกี้ เนปิดอว์ อันโดดเด่นในปีนี้เท่านั้นเอง

ในขณะที่ตลาดมีความต้องการห้องพักมากมาย จน Developer ต้องนำเรือเดินสมุทรมาทำเป็นโรงแรมห้าดาวเพราะมูลค่าที่ดินนั้นแพงมหาศาล หรือแม้แต่ความต้องการของชนชั้นกลางในการบริโภคร้านอาหารนานาชาติที่ได้รับความนิยม เช่น โออิชิ ที่เปิดตัวไปแล้วหลายสาขา หรือแม้แต่เดอะ พิซซ่า ที่เพิ่งเปิดร้านในย่างกุ้งเร็วๆ นี้ ก็ขายไม่ทันจนมีลูกค้ามารอรับพิซซ่านำกลับบ้านจนล้นหลาม เพราะทางการไม่อนุญาตให้ขับขี่มอเตอร์ไซด์ในเขตกรุงย่างกุ้ง ซึ่งส่งผลให้ไม่มีพิซซ่าเดลิเวอรี่ ส่งตรงถึงบ้านเหมือนบ้านเรา ทั้งหมดนั้นเป็นลูกค้าส่วนหนึ่งของโฮบาร์ท และศักยภาพของตลาดใน CLMV ที่โฮบาร์ท ประเทศไทยได้ร่วมพัฒนากับผู้แทนจำหน่ายในสินค้าและบริการให้ยั่งยืนในตลาด AEC นี้ต่อไป

โดย วิวัฒน์ กล่าวและเพิ่มเติมว่า “สำหรับแนวทางการพัฒนาการตลาด T+CLMV ในปีนี้ โฮบาร์ทยังคงมุ่งเน้นปัจจัยความรู้ ความเข้าใจในสุขอนามัยของการประกอบอาหารด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐานสากลเพื่อได้อาหารที่ปลอดภัย จากสินค้าที่ตอบโจทย์ในธุรกิจอาหารที่ได้รับการยกย่องได้รางวัลนานาชาติมากมาย อีกทั้งมี Solution ที่โฮบาร์ทมีบุคลิกบอกถึงความคุ้มค่าต่อการลงทุนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเตรียมอาหารที่ทนทานเลื่องชื่อและได้มาตรฐาน NSF, เครื่องประกอบอาหารที่ได้ ENERGY STAR, เครื่องล้างจานอัจฉริยะที่ประหยัดน้ำ ไฟ และเคมีสูงสุดเป็นสุดยอด Green Technology รวมทั้งมีเทคโนโลยีการลดขยะอาหารที่ได้รับการยอมรับจากสมาพันธ์อาคารเขียวของสหรัฐอเมริกาจนมีหลายโครงการได้รับรองในระดับ LEED ซึ่งได้ผลเป็นการลดภาวะเรือนกระจก ลดโลกร้อนอีกด้วย

โดยในปีนี้ โฮบาร์ทจะนำสินค้าในกลุ่ม SOMAT ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่ม กรีน อินโนเวชั่น ที่ช่วยแปรขยะอาหารให้เป็นผงธุลีใช้ปรับปรุงดิน ได้เข้ามาเปิดตัวครั้งแรกในเอเซียที่ประเทศไทยในงาน SETA 2016 ระหว่างวันที่ 23- 25 มีนาคมนี้ที่ไบเทค บางนา ด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่าในปี 2558 ที่ผ่านมา สภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยจะชะลอตัว แต่ประเทศไทย โฮบาร์ทกลับประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย รวมถึงยังสามารถพัฒนาความรู้ด้านเทคโนยีใหม่ๆ ให้กับกลุ่มผู้แทนจำหน่ายให้เข้าใจในตัวผลิตภัณพ์ต่างๆ ของโฮบาร์ทเพิ่มมากขึ้น  อาทิ การจัดโปรแกรมพาผู้แทนจำหน่ายไปร่วมชมงานที่เยอรมนี ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ และเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ รองจากสหรัฐอเมริกา และยังมุ่งเน้นพัฒนาผู้แทนจำหน่ายหลักใน CLMV ด้วยระบบ Partnership ที่ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งในงานบริการ โดยมีทีมงานเราเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งคาดว่าน่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา โดย Food Services จะโตตามค่านิยมการบริโภคนอกบ้านของคนไทยในสังคมเมือง รวมทั้งการสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งในภาพรวมยังคงไม่กระทบมากนักเพราะภาครัฐและเอกชนยังลงทุน และมีนโยบายมาสนับสนุน การจับจ่ายให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การขยายตัวจึงไม่ยากนักถ้าโฮบาร์ทสามารถขยายตัวในประเทศไทย โดยจะไปสู่ช่องทางใหม่ กับสินค้าใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดเร็วๆ นี้”

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *