TMI พลิกกำไร หลังรายได้เฮาส์แบรนด์พุ่ง
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMIเปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ประจำปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่0.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.93 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 147.13% เมื่อเทียบกับผลประกอบการปี 2558 ที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 1.31 ล้านบาท และมีรายได้รวม 543.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.78 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น12.12% เมื่อเทียบกับผลประกอบการปี 2558 ที่มีรายได้อยู่ที่ 484.61 ล้านบาท
โดยการเติบโตของทั้งกำไร และรายได้เกิดจากการที่บริษัทฯได้ปรับปรุงตลาด มุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าที่ผลิตภายใต้ตราสินค้าที่ได้จดทะเบียนไว้ หรือเฮาส์แบรนด์ โดยรายได้จากสินค้าเฮาส์แบรนด์ของบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 13.87% โดยเพิ่มขึ้นจาก 155.76 ล้านบาทในปีก่อนเป็น 177.37 ล้านบาทในปีนี้ ในขณะที่รายได้จากการรับจ้างผลิตสินค้าภายใต้ตราสินค้าของลูกค้ามีสัดส่วนที่ลดลงเหลือ 8.93% โดยลดลงจาก 64.84 ล้านบาทในปีก่อนเป็น 59.05 ล้านบาทในปีนี้
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทฯมีมติให้จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.015 บาท สำหรับหุ้นสามัญจำนวน 671,440,890 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 10.07 ล้านบาท โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 4 มีนาคม 2559 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล หรือ Record Date ในวันที่ 8 มีนาคม 2559 และปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น ในวันที่ 9 มีนาคม 2559 และกำหนดจ่ายปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 19 พฤษภาคม 2559
ขณะที่ในปี 2559 บริษัทฯคาดว่าจะสามารถมีกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้ารายได้เติบโตที่ 20%จากปีก่อน โดยบริษัทฯมีแผนที่จะรุกตลาดหลอดไฟ LED สำหรับผู้บริโภค หรือ Consumer Market เพิ่มมากขึ้น และมีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ GATA อีก 2-3 รายการในระยะแรก รวมถึงเร่งขยายฐานการส่งออกให้ครอบคลุมตลาด AEC ทั้งหมดจากในปัจจุบันที่มีการส่งออกไปยังกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม หรือ CLMV เพื่อเป็นการขยายตลาดให้กว้างมากขึ้นรวมถึงยังเป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจอีกด้วย
‘ผลประกอบการของเราในปีนี้สามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ตามเป้า หลังจากเราเริ่มหันมาขยายตลาดผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้าเฮาส์แบรนด์เพิ่มมากขึ้น ทำให้บริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นด้วย เนื่องจากสินค้าเฮาส์แบรนด์มีมาร์จิ้นที่ดีกว่าสินค้า OEM ซึ่งเราคาดว่าในปีนี้เราจะสามารถเดินหน้าทำกำไร และมีรายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ’
