web analytics

ติดต่อเรา

อนันดาฯ เปิด 12 โครงการใหม่ ตั้งเป้าปี 59 เพิ่มขึ้น 61%

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จสูงเกินคาดจากแผนการดำเนินงานที่ตั้งไว้ โดยนับว่าเป็นปีที่บริษัทสามารถสร้างสถิติใหม่ทั้งในส่วนของยอดขาย ยอดขายรอรับรู้รายได้ และมูลค่าเปิดโครงการใหม่ สำหรับในปี 2558 บริษัทฯ สร้างยอดขายเป็นสถิติใหม่สูงกว่า 26,235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน โดยมาจากยอดขายโครงการคอนโดมิเนียม 22,268 ล้านบาท และยอดขายโครงการแนวราบ 3,967 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นปี 2558 จำนวน 37,200 ล้านบาท ซึ่งสร้างสถิติอีกครั้ง โดยเพิ่มขึ้น 37% จากสิ้นปี 2557 ที่ 27,100 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เปิดขายโครงการใหม่สูงสุดเป็นสถิติ ด้วยมูลค่า 34,828 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียม 31,907 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 2,921 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานประจำปี 2558 บริษัทฯ สร้างรายได้ 11,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน ซึ่งเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 9,598 ล้านบาท บริษัทฯ รายงานกำไรสุทธิ 1,207 ล้านบาท ลดลง 7% จากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 1,301 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องในเปิดขายโครงการใหม่ตลอดปี 2558 สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ของปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้ จำนวน 5,426 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 900 ล้านบาท โดยมีตัวเลขรายได้เพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรสุทธิในไตรมาสนี้อยู่ที่ 17% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 15%

จากความสำเร็จที่ดีเกินกว่าเป้าหมายในการสร้างยอดขายทั้งปีเพิ่มขึ้นถึง 26% จากปีก่อน แสดงถึงความต้องการที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้ายังมีอยู่มาก ประกอบกับความแข็งแกร่งของแบรนด์อนันดา ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในการพัฒนาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าเพิ่มความมั่นใจให้กลุ่มเป้าหมายในการเลือกซื้อมากยิ่งขึ้น

จากยอดขายที่สูงสุดสร้างสถิติในปี 2558 และการรักษาวินัยทางการเงิน โดยบริษัทฯ ควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายเทียบกับยอดขายในปี 2558 ลดลงประมาณหนึ่งในสามจาก 2 ปีที่ผ่านมา และบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายการบริหารเทียบกับมูลค่าโครงการที่พัฒนาทั้งหมด ลดลงหนึ่งในสามจากช่วงเดียวกัน จะส่งผลดีต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในอนาคต พร้อมกับยอดโอนในอนาคตที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายหลังเงินลงทุนจาก IPO และการประสบความสำเร็จในการควบคุมต้นทุนดังกล่าว

“ถึงแม้จะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจที่มีความผันผวน อนันดาฯ ก็ยังคงสร้างยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง พร้อมการมีวินัยทางการเงินที่แข็งแกร่งและการควบคุมค่าใช้จ่าย จนทำให้อนันดาฯ ไม่เพียงเป็นผู้นำการพัฒนาที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ แต่อนันดาฯ ยังคงระดับการขายที่ดีอย่างต่อเนื่อง และครองอันดับ 1 ด้านยอดขายคอนโดมิเนียมทั่วประเทศรวมสูงสุดใน 2 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย”

ในปี 2558 บริษัทฯ ยังคงมีการร่วมทุนอย่างต่อเนื่องกับมิตซุย ฟูโดซัง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม และได้ประกาศร่วมทุนเพิ่มอีก 5 โครงการ รวมเป็นโครงการร่วมทุน 9 โครงการ ด้วยมูลค่าโครงการรวมสูงถึง 45,000 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทฯ มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ผนึกความร่วมมือกับบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ในการเปิดตัว “Samsung IoT Smart Home” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยได้มีการศึกษาวิจัยร่วมกัน พร้อมร่วมแบ่งปันมุมมองเพื่อนำมาพัฒนานวัตกรรมดังกล่าว ทำให้ลูกค้าได้รับเทคโนโลยีใหม่ที่นำนวัตกรรมเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม ถือเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เคยทำมาก่อนหน้า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังประยุกต์ใช้ระบบการบริหารและควบคุมคุณภาพโครงการจากมิตซุย (TQPM : Total Quality Project Management System) และได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี Building Information Modeling (BIM) ซึ่งครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของบริษัทฯ โดยมีส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านระยะเวลาในการออกแบบ และควบคุมคุณภาพในอนาคต นอกจากนี้ได้ดำเนินการยกระดับระบบการจัดการภายในเพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทฯ ในอนาคต

สำหรับแผนดำเนินธุรกิจในปี 2559 แม้ว่าความต้องการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้ายังมีเป็นจำนวนมากก็ตาม แต่บริษัทฯ ก็ใช้ความระมัดระวังในการวางเป้าหมายการดำเนินงานโดยตลอด ซึ่งปัจจัยดังกล่าวมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะหนี้ภาคครัวเรือน และปัญหาเศรษฐกิจจีน แต่อย่างไรก็ตามปี 2559 เป็นช่วงเวลาสำคัญของอนันดาฯ ในการเข้าสู่ช่วงเวลาของการเก็บเกี่ยวผลตอบแทน (Harvest Period) บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดโอนจะเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า ตั้งแต่ 2558 ถึงปี 2561 โดยในปี 2559 เมื่อรวมส่วนแบ่งยอดโอนจากโครงการร่วมทุนเฉพาะส่วนของอนันดา คาดหมายยอดโอนจะเพิ่มขึ้น 40% อยู่ที่ 13,400 ล้านบาท ในปี 2559 ยอดขายรอรับรู้รายได้ที่จะโอนในปีนี้ อยู่ที่ 10,800 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายรอรับรู้รายได้รวมส่วนแบ่งยอดโอนเฉพาะของอนันดา อยู่ที่ 8,600 ล้านบาท คิดเป็น 65% ของเป้ายอดโอนในปี 2559 โดยเงินลงทุนจาก IPO ที่ได้นำมาพัฒนาโครงการและมีการเปิดขายไปก่อนหน้านี้ ซึ่งการก่อสร้างได้แล้วเสร็จและเริ่มมีการโอนกรรมสิทธิ์ โดยจะเริ่มสร้างผลตอบแทนจากยอดโอนในปี 2559 จำนวน 5 โครงการ

จากวงจรเงินลงทุนของบริษัทฯ ทำให้ในปี 2559 ตั้งเป้าเปิดขายโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่ากว่า 22,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียม 9 โครงการ มูลค่า 18,700 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 3 โครงการ มูลค่า 3,300 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายกว่า 21,000 ล้านบาท จากโครงการที่เปิดขายใหม่ที่ลดลงจากปีก่อน อย่างไรก็ตามบริษัทฯ เตรียมงบซื้อที่ดิน กว่า 8,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 5,200 ล้านบาทในปี 2558 รองรับการเติบโตในอนาคต

สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ ในไตรมาส 1 ปี 2559 บริษัทฯ มีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างเป็นทางการ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการแอชตัน สีลม มีจำนวน 428 ยูนิต มูลค่ารวม 6,006 ล้านบาท และโครงการไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ มีจำนวน 844 ยูนิต มูลค่ารวม 2,922 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 แห่ง เป็นโครงการร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง ทั้งนี้สำหรับโครงการแอชตัน สีลม โครงการ high-rise คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแห่งแรกที่เปิดขายบนถนนสีลมในระยะเวลากว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดคอนโดมิเนียมบนถนนสีลม ที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุด 350 ม. จาก BTS สถานีช่องนนทรี ด้วยทำเลที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ผสานนวัตกรรม Interlocking พร้อมความสูงของห้อง 3.6 เมตร และรวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันมากถึง 4 ชั้น ในราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท
โครงการ ไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ (Ideo Tha Phra Interchange) คอนโดมิเนียมที่สามารถเชื่อมต่อชีวิตคุณสู่ชีวิตเมืองได้อย่างสะดวก บนทำเลเหนือระดับ เพียง 100 เมตร จาก MRT สถานีท่าพระ ใกล้จุดเชื่อม Interchange ให้คุณสัมผัสชีวิตครบทุกมิติชีวิตคนเมือง ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท

“นอกจากนี้ในส่วนของกระแสเงินสดของบริษัทยังมีความแข็งแกร่งโดยเรามีนโยบายในการรักษาระดับเงินสดในบริษัทอย่างน้อย 1,000 ล้านบาทอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องจากสถาบันการเงินชั้นนำ และมีทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายสามารถเลือกขึ้นมาใช้ได้ตามสถานการณ์ แม้ว่าบริษัทจะมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ก็ยังคงรักษาความมีวินัยทางการเงินอย่างเข้มงวด พร้อมดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนทุน ต่ำกว่า 1:1” นายชานนท์ กล่าวสรุป

ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยถือเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงสุดเป็นสถิติ จากนโยบายที่ยังคงเพิ่มเงินปันผลทุกปีให้แก่ผู้ถือหุ้น ภายหลังการระดมทุน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

Mr Chanond Ruangkritya, CEO of Ananda, said, “We are delighted to have achieved record pre-sales for the year despite the economic headwinds and are pleased to have continued our strong discipline in controlling costs. Ananda is not only the leader in Bangkok mass transit living but due to a higher consistent level of sales than any other developer has been the number one seller of condominiums in the whole of Thailand over the last two years.”

He continued, “Despite this explosive growth we have maintained our financial discipline and maintained our net interest bearing debt to equity below our target of 1:1 at the end of the year.”

He added, “As well as the record results the company has made significant additional progress during the year. We expanded our joint ventures with Japan’s largest real estate company, Mitsui Fudosan, with five additional projects announced bringing the total number of joint venture projects to nine with a total development value of 45 billion Baht.”

He continued, “We were very proud to be selected by Samsung to be the first in Thailand to launch their SmartThings Internet of Things SmartHome and we have continued joint research with Samsung to see how these new and rapidly developing technologies can improve the lives of Thai people. We view SmartHome as a strategically disruptive technology that will change the very definition of what it means to be a developer. We have continued deployment of Mitsui’s proprietary Total Quality Production Management System, which we expect to have significant value in improving quality control and we have begun implementing Building Information Modeling software across our entire supply chain, which we expect to significantly improve speed of design and quality control in the future. We have continued with work began after the IPO on upgrading the internal management systems of the company to help manage our rapid growth.”

On the subject of the 2016 Business Plan he explained, “Although our market of mass transit condominiums continues to demonstrate strong demand, we begin the year with a cautious plan due to continuing economic uncertainty, particularly with regard to consumer debts and China, although ready to increase if we see signs of rebound. However, 2016 is the beginning of an exciting period for Ananda as we enter what we refer to as our “Harvest Period”, which will see our transfers almost triple between 2015 and 2018 including a near 40% increase in 2016 to 13.4 billion Baht, including Ananda’s share of joint venture projects. We have backlog to be transferred in 2016 of 10.8 billion Baht, including Mitsui’s share of joint ventures and 8.7 billion Baht including Ananda’s share alone which represents 65% of our annual transfer target. We are finally about to see the investment made after the IPO come through as transfers when we expect to see transfers grow much more rapidly from 2016 onwards as buildings already launched and sold begin to transfer. We have five condominium buildings finishing construction and beginning to transfer in 2016.”

He continued, “Due mainly to our capital investment cycle the launch total will be reduced to around 22 billion in new launches for the year, comprising nine new condominium projects worth 18.7 billion Baht and three new housing projects worth 3.3 billion Baht. Our total presales target for the year is around 21 billion Baht, mostly due to the lower launch total.”

He added, “In 2016 we expect to increase our land purchase budget to 8.7 billion from 5.2 billion in 2015, to support our future growth.”

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *