นางปิยะนุช รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยความคืบหน้าโครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เพเซอร์ พัทยา ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของ TWZ ว่า ล่าสุด บริษัทฯ ได้ตกลงทำสัญญามอบหมายให้บริษัท เจเอสเจ แอนด์ ที คอนสตรัคชั่น จำกัด (JSJ&T) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ หลังจากเริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2558 โครงการมีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2560
“TWZ ไว้วางใจมอบหมายให้ JSJ&T. เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการเดอะเพเซอร์ พัทยา ซึ่งบริษัทดังกล่าว นับได้ว่าเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างมายาวนาน มีประสบการณ์และผลงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม โรงแรม โรงเรียน รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน TWZ ในฐานะเจ้าของโครงการ ก็เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์มาแล้วหลายโครงการ ดังนั้น ทำให้มั่นใจได้ว่า โครงการเดอะเพเซอร์ พัทยา จะเป็นอีกหนึ่งโครงการคุณภาพที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อที่ต้องการคอนโดมิเนียมพักอาศัยริมหาด ในทำเลที่นับได้ว่าดีที่สุด ภายใต้การออกแบบที่สวยงาม เน้นความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายได้อย่างแน่นอน” นางปิยะนุชกล่าว
สำหรับโครงการ เดอะ เพเซอร์ พัทยา เป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรู ขนาด 1 อาคาร ความสูง 8 ชั้น จำนวน 119ยูนิต ขนาดพื้นที่ห้องตั้งแต่ 28-79 ตารางวา ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ ริมชายหาด ราคาขายเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 500 ล้านบาท โดยแนวคิดหลักในการพัฒนาโครงการ ก็เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้ชีวิตแบบสโลว์ ไลฟ์ สบายๆ ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างมีสไตล์ด้วยทำเลที่เงียบสงบ สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ ‘ใช้ชีวิตทุกๆวัน เป็นวันพักผ่อน’ แต่มีความสะดวกสบาย เพราะโครงการอยู่ใกล้เมืองพัทยา
โดยจุดเด่นของโครงการ นอกจากจะอยู่ที่ทำเลที่มีระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน ใช้เวลาเดินทางเพียง 90 นาทีจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิแล้ว การวางผังโครงการยังเน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผสมผสานแนวคิดการพักผ่อนที่มุ่งเน้นความเป็นธรรมชาติอย่างลงตัวในสไตล์โมเดิร์น รีสอร์ท สะท้อนบรรยากาศอันอบอุ่น มีความผ่อนคลายควบคู่กับความโปร่งโล่งและทันสมัย สามารถสะท้อนความเป็น new lifestyle condominium ของการใช้ชีวิตในพัทยาได้เป็นอย่างดี
กรรมการผู้จัดการ TWZ ผู้บริหารโครงการคอนโดมิเนียม เดอะเพเซอร์ พัทยา กล่าวด้วยว่า ด้วยจุดเด่นของโครงการและราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 2.59 ล้านบาท ทำให้โครงการได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้สนใจ โดยในช่วงพรีเซลส์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ยอดจองซื้อเป็นไปอย่างคึกคัก โดยลูกค้ากลุ่มหลักเป็นทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยว นักลงทุน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาบ้านพักต่างอากาศที่เน้นการเดินทางสะดวกไม่ไกลกรุงเทพฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในเมืองท่องเที่ยวและเมืองพักผ่อนที่ยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้เป็นอย่างดี
Comments
comments
