web analytics

ติดต่อเรา

“ORA Good Cat” น้องเหมียวไฟฟ้า เร่งดีเกินคาด

ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสรถรถยนต์พลังงานไฟฟ้า “ORA Good Cat” น้องใหม่ไฟแรง จากค่าย GWM เป็นที่ตื่นตาตื่นใจและได้รับความสนใจกันเป็นอย่างมาก ทั้งจากสื่อมวลชนที่ร่วมทดสอบ และจากผู้ที่ผ่านไปมาเจอะเจอเจ้าแมวซนคันนี้วิ่งไปรอบกรุง ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่น่ารัก ถูกใจวัยรุ่น และยังเป็นรถไฟฟ้า 100% ที่นอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมาพร้อมเทคโนโลยีในแบบฉบับของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ และที่จัดว่าเด็ดคือเจ้ารถเล็กคันนี้สามารถวิ่งได้ถึง 500 กิโลเมตร โอววว์ !! ช่างน่าสนใจซะจริง ๆ

ORA Good Cat 500 ULTRA
ORA Good Cat 400 PRO

“ORA Good Cat” รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีความจุแบตเตอรี่ 2 ประเภท ในรถ 3 รุ่น คือ แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 47.788 kWh มีระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กิโลเมตร ในรุ่น 400 TECH และ 400 PRO และแบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary (NMC) ความจุ 63.139 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กิโลเมตร ในรุ่น 500 ULTRA ใช้ระยะเวลาในชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0% – 80%) 45 นาที สำหรับรุ่น 400 และ 60 นาที สำหรับรุ่น 500 แต่ถ้าชาร์จจาก 30% – 80% จะใช้เวลาเพียง 32 นาที สำหรับรุ่น 400 และ 40 นาที สำหรับรุ่น 500 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร และทำความเร็วสูงสุด ได้ถึง 152 กม./ชั่วโมง โดยมีอัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที และมาพร้อมกับคุณสมบัติการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ในส่วนของระบบการขับขี่ ระบบความปลอดภัยและระบบการจอดอัตโนมัติ รวมถึงทั้งฟังก์ชั่นหลบหลีกอัจฉริยะ การแจ้งเตือนการชน และการจดจำการจอดรถ

อัดมาซะแน่นขนาดนี้ เห็นทีจะไม่ลองไม่ได้แล้ว ทีมงาน Benewsonline ได้มีโอกาสเข้าร่วมทดลองขับและทดสอบสมรรถนะในกิจกรรม “ORA Good Cat Future Ready Driving Experience” บนถนนจริงไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ทั้งในช่วงทางตรงอัดกันได้ยาว ๆ และช่วงรถติดในเมืองและนอกเมือง แวะทำกิจกรรมเวิร์คชอปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และปิดท้ายด้วยกิจกรรม ORA Good Cat Challenge ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความท้าทาย

หลังจากทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และตรวจ ATK กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนออกเดินทางก็ต้องทำความเข้าใจ เรียนรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อทดสอบความแม่นยำของระบบพวงมาลัย การตอบสนองของคันเร่งและการขับเคลื่อนจากระบบไฟฟ้า รวมไปถึงทดลองใช้งานอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีการขับขี่อันล้ำสมัยอื่น ๆ เพิ่มเติม ในสนามทดสอบรถระบบปิด (Test Track) บริเวณ ORA Good Cat Fun Park ณ อิมแพ็ค เลคไซด์ เมืองทองธานี โดยรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat ที่นำมาทดสอบสมรรถนะมีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น คือ “ORA Good Cat 400 PRO” และ “ORA Good Cat 500 ULTRA”

โดยฐานแรกจะเป็นการเรียนรู้การใช้งานรถและทดสอบการใช้ฟังก์ชั่นและระบบต่าง ๆ ของ ORA Good Cat รุ่น 400 PRO และ 500 ULTRA อาทิ การใช้งานหน้าจอ Interactive Double Screen ที่พาดยาวบริเวณคอนโซลขนาด 17.25 นิ้ว เบาะนั่งไฟฟ้าแบบปรับได้ 6 ทิศทาง พร้อมการจดจำตำแหน่งที่นั่ง (sitting position record) และฟังก์ชั่น Welcome Seat ระบบชาร์จมือถือไร้สาย เกียร์ระบบ Electronic Shifter บริเวณคอนโซลกลาง โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ 1) โหมดมาตรฐาน 2) โหมด Sport 3) โหมด ECO 4) โหมด ECO+ และ 5) โหมดอัตโนมัติ และฟังก์ชั่นการใช้งานอื่น ๆ

จากนั้นก็มากันที่ฐานการทดสอบระบบช่วยจอดอัตโนมัติ 3 รูปแบบ ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือแม้แต่แนวเฉียง โดยจะเป็นการใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเครื่องหมายบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถและช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง ต้องบอกว่าระบบช่วยจอดอัตโนมัตินี้น่าสนใจมาก สำหรับผู้ใช้งานในเมือง หรือแม้แต่มือใหม่หัดขับ โดยเฉพาะสาว ๆ ด้วยนะ ปัญหาเรื่องการเอารถเข้าจอดกลายเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้วเท่านั้น

เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเดินทางทดสอบจากจุดสตาร์ทที่ เมืองทองธานี กันเลย แต่ก่อนจะขับนั้นต้องบอกก่อนว่ารถรุ่นนี้ ไม่มีปุ่ม Push Start นะ ขึ้นรถมาแล้ว งงดิ สตาร์ทยังไงล่ะ กิมมิคของนางอยู่ตรงนี้แหละ ก็แค่เปิดประตูขึ้นมานั่ง เหยียบเบรก แล้วหมุนปุ่มเกียร์กลม ๆ ตรงคอนโซลกลาง จากนั้นก็ปล่อยเบรกเหยียบคันเร่ง ออกตัวได้เลย ส่วนเวลาดับเครื่องจะมีปุ่มกดดับเครื่องอยู่ด้านขวามือ แนวเดียวกับปุ่มโหมดการขับขี่นั่นแหละ เป็นไง?? ทันสมัยมั้ยล่ะ

เข้าใจตรงกันแล้วทีนี้ก็วิ่งกันยาว ๆ ไปตามถนนราชพฤกษ์ เข้าสู่ถนนอักษะ แถวพุทธมณฑล เพื่อทดสอบอัตราเร่งซึ่งทางยาวนี่ได้แรงเอาเรื่อง เร่งได้อย่างใจมาก ไม่ได้ให้ความรู้สึกของการเป็นรถไฟฟ้าที่คิดว่าจะอืด วิ่งไม่ออกเลย ช่วงล่างหนึบทรงตัวดี ในส่วนของโหมดสปอร์ต แต่ถ้าใช้โหมด Eco อัตราเร่งจะช้ากว่า คือต้องใช้น้ำหนักเท้ามากกว่า แต่ถ้าเป็นโหมดสปอร์ตแตะนิดเดียวเร่งขึ้นทันใจเลย แต่จะขัดใจอยู่หน่อยก็ตรงปุ่มที่ใช้ในการปรับโหมดการขับขี่ เอาไปวางไว้ในตำแหน่งด้านข้างหลังพวงมาลัยที่ใช้งานค่อนข้างยาก และยังมาพร้อมระบบเสริมความปลอดภัยแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง มีมาให้ครบ รวมถึงการเข้าโค้งอัจฉริยะ หรือ Intelligent Turn เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้ ซึ่งระบบนี้น่าสนใจมาก

จากถนนอักษะเราขับไปทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน The Hay – Equestrian Center & Eatery ย่านบางบอนในการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่น

หนังท้องตึงกันแล้ว ก็ออกเดินทางไปทำกิจกรรมเวิร์คชอปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘ORA Good Cat Hunt’ กันที่ Soul Salt River City ด้วยการระบายสีภาพวาดน้องแมว ปลดปล่อยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน เป็นภาพเดียวในโลกที่ไม่มีใครเหมือน พร้อมดื่มด่ำและเพลินเพลินไปกับบรรยากาศระหว่างการวาดภาพอันรื่นรมย์บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เสร็จจากกิจกรรมเวิร์คชอปก็ขึ้นทางด่วนกลับมายังเมืองทองธานี เพื่อร่วมสนุกกับกิจกรรมสุดท้ายในวันนี้ ในช่วงถนนโล่งทดลองขับที่ความเร็วสูงอัตราเร่งดีมากเทียบเท่ารถใช้น้ำมันเลย กิจกรรมที่ว่าใช้ชื่อว่า Cat catch the Mouse ด่าน ‘แมวจับหนู’ โดยเราจะต้องขับรถ ORA Good Cat ผ่านจุดต่าง ๆ ในเส้นทางที่ถูกต้อง จนกว่าจะไปถึงจุดหมายได้สำเร็จ ซึ่งเมื่อผ่านเส้นทางที่ถูกต้อง ระบบเซ็นเชอร์จะขึ้นไฟสีเขียว ใครทำเวลาได้ดีที่สุดเมื่อไปถึงจุดหมายจะเป็นผู้ชนะ ด่านนี้ทั้งสนุก ทั้งขำ ทั้งมันส์ ทั้งงงงวย รวมอยู่ตรงนี้หมดแล้ว

นอกจากนี้เรายังได้ทดสอบ ด่าน ‘แมวซน’ กับความท้าทายในการทดสอบเสถียรภาพและการทรงตัวของ ORA Good Cat บนไม้กระดานรูปทรงชีสสุดน่ารัก โดยต้องขับรถขึ้นไปบนกระดานรูปทรงชีสและจอดให้รถหยุดในจุดที่กำหนดเพื่อตรวจสอบทดสอบเสถียรภาพและการทรงตัวของรถยนต์ 3 วินาที ก่อนที่จะขับกลับลงไปจากไม้กระดาน

หลังจากทดลองขับบนถนนจริงที่มีระยะทาง 117 กิโลเมตร สรุปได้ว่ารถรุ่นนี้เหมาะมากกับการใช้งานในเมือง ถึงเอาออกต่างจังหวัดก็สบาย ๆ 500 กิโลเมตร วิ่งได้ยาว ๆ ความรู้สึกส่วนตัวชอบนะหลังจากได้ทดสอบสมรรถนะการขับขี่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่าง หรืออัตราเร่งที่ตอบสนองได้อย่างใจ ยังไม่รวมถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่มีแต่คนชมว่าน่ารัก ไปตรงไหนก็มีแต่คนถ่ายรูป ส่วนภายในไม่ต้องกลัวว่าจะแคบ พื้นที่ห้องโดยสารกว้างมาก ด้านหลังนั่งสบาย พร้อมเข็มขัดนิรภัย 5 จุด ใครนั่งไม่คาดเข็มขัดทั้งด้านหน้าด้านหลัง สัญญาณเตือนทุกจุดนะจ๊ะ ตัดจบกันเลยว่าเจ้า ORA Good Cat เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก ที่เหลือก็ต้องอดใจลุ้นราคาที่จะเปิดในวันที่ 29 ตุลาคมนี้แล้วละ ถ้ารถสเปคนี้ออกมาต่ำกว่าล้าน บอกได้เลยว่าจะเป็น ‘Game Changer’ ในการเข้ามาพลิกโฉมวงการยานยนต์รถไฟฟ้าแน่นอน

By : B.Varaporn

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *