web analytics

ติดต่อเรา

TOA คาดผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายฟื้นตัว

บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) หรือ TOA ผู้นำตลาดสีทาอาคารในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ประเมินทิศทางการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายฟื้นตัว รับอานิสงส์ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศและความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการออกมาตรการช้อปช่วยชาติที่จะส่งผลดีต่อการกระตุ้นกำลังซื้อ ตลอดจนตลาดต่างประเทศที่คาดว่าจะขยายตัวได้ดี หลังผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากผลกระทบน้ำท่วมและเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของตลาดวัสดุก่อสร้าง ด้านผู้บริหารเดินหน้าขยายการลงทุนโรงงานผลิตสีอีก 3 แห่งในอินโดนีเซีย เมียนมาร์และกัมพูชาตามแผนงาน

นายพงษ์เชิด จามีกรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้นำสีทาอาคารในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวจากไตรมาส 3/60 โดยมีปัจจัยเกื้อหนุนจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เริ่มปรับตัวดีขึ้ การออกมาตรการช้อปช่วยชาติของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อบรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยเลือกซื้อสินค้าและความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น เพื่อนำไปปรับปรุงและก่อสร้างที่อยู่อาศัย รวมถึงคาดการณ์ช่วงปลายปีนี้เครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่เป็นร้านค้าปลีกจะเริ่มสั่งสินค้าเก็บสต๊อกเพื่อเตรียมรับฤดูการขายรอบใหม่ที่จะมาถึง

ขณะที่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนที่เป็นตลาดหลักของ TOA คาดว่าจะมีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์สีทาอาคารเพิ่มขึ้น จากการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ที่ส่งผลดีต่อภาพรวมการก่อสร้างและปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในแต่ละประเทศ โดยบริษัทฯ วางแผนเพิ่มจำนวนเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายร้านค้าปลีกในภูมิภาคอาเซียน พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์สีทาอาคารในเกรดพรีเมี่ยมเพื่อผลักดันการเติบโตของตลาดส่งออก

นอกจากนี้ TOA ได้เดินหน้าขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนตามแผนงานที่วางไว้ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตสีแห่งใหม่ในต่างประเทศอีก 3 แห่ง ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศเมียนมาร์ ที่มีแผนย้ายโรงงานจากเมืองย่างกุ้งไปอยู่ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา และในประเทศกัมพูชา

นายพงษ์เชิด คาดการณ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 (กรกฎาคม-กันยายน 2560) หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้าง ที่ประสบภาวะกำลังชะลอตัวจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ประกอบกับเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการขายสินค้าวัสดุก่อสร้างและราคาวัตถุดิบในตลาดโลกที่ผันผวน ส่งผลให้มีรายได้จากการขาย 3,739.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 342.7 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 3,848.3 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 584.7 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2560) มีรายได้จากการขาย 11,457.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,237.3 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 12,188.8 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,993.0 ล้านบาท

“เราคาดว่าภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะฟื้นตัว หลังจากภาพรวมเศรษฐกิจและบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันเราได้เดินกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อผลักดันยอดขายทุกช่องทางทั้งตลาดในประเทศและตลาดในภูมิภาคอาเซียน ที่จะส่งผลดีต่อการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้าย”

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *