DRT เล็งปรับเพิ่มสัดส่วนรายได้ส่งออก รับตลาด CLMV+I เติบโตเร็วกว่าคาด
สาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า แนวโน้มความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV+I (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ เวียดนามและอินโดนีเซีย) มีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจของแต่ละประเทศมีอัตราเติบโตที่ดี ซึ่งส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยได้ให้ความสำคัญกับการรุกขยายตลาดส่งออกของ DRT ภายใต้แบรนด์ DIAMOND มากขึ้น หลังตลาดวัสดุก่อสร้างภายในประเทศอยู่ระหว่างภาวการณ์ฟื้นตัว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้การส่งออกในช่วง 3 ปี (2559-2561) จาก 16% เป็น 20% ซึ่งจากข้อมูลในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา พบว่า ยอดขายจากการส่งออกของ DRT ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตเป็นเลข 2 หลัก มากกว่าอัตราการเติบโตของยอดขายภายในประเทศ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ จึงทำให้สัดส่วนยอดขายจากตลาดส่งออกเพิ่มเป็น 18% และคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่สัดส่วนยอดขายจากตลาดส่งออกจะเพิ่มเป็น 20% จากยอดขายรวมได้ก่อนเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้น บริษัทฯ จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะปรับเป้าหมายการส่งออกต่อไป
“ตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศ CLMV+I จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของเราในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้ เนื่องจาก DRT มีประสบการณ์และเข้าไปทำตลาดในภูมิภาคนี้มาอย่างยาวนาน จึงมีความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคและกลุ่มสินค้าของเราก็มีความหลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้ได้ดีขึ้น จึงส่งผลดีต่อยอดขายจากตลาดส่งออกของ DRT ขยายตัวได้ดี ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศในอาเซียน”
กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มส่งออกในครึ่งปีหลังมั่นใจว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยแผนดำเนินงานในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีแผนเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่มอิฐมวลเบาเพื่อขยายตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศเมียนมาร์รองรับความต้องการของผู้บริโภค โดยจะนำเสนอสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ผนังมวลเบา (Wall Panel) รวมถึงสินค้ากลุ่มหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์เข้าไปทำตลาด ซึ่งเชื่อมั่นว่าด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์DIAMOND และคุณภาพสินค้าที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ จะทำให้สินค้าของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีและจะส่งผลดีต่อการผลักดันยอดขายจากตลาดส่งออกในประเทศเมียนมาร์เพิ่มขึ้น
