web analytics

ติดต่อเรา

Range Rover Velar สมาชิกรุ่นที่ 4 จากตระกูลแรงยกสูง

“มีที่ว่างเสมอสำหรับรถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดีที่สุด” นับเป็นประโยคช่วยตอบการมาของเรนจ์ โรเวอร์ เวลาร์ ได้ดีที่สุด นอกเหนือไปจากจุดกำเนิดของรถ ซึ่งออกแบบตามทฤษฎีแยกส่วนเพื่อลดความซับซ้อน กระทั่งกลายเป็นการปฏิวัติผลิตภัณฑ์ในตระกูลตัวเองให้แตกต่าง โดยเข้าไปช่วยเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายระหว่างเรนจ์ โรเวอร์ อีโวค และเรนจ์ โรเวอร์ สปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์

เวลาร์ถูกสร้างขึ้นจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง แต่มีน้ำหนักเบาและความแข็งแกร่งกว่าโครงสร้างแบบเดิมๆ อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแลนด์โรเวอร์ ก่อนจะถูกสวมด้วยรูปทรงสวยงามและสมดุล พร้อมกับสัดส่วนอันทรงพลังและปราดเปรียวจากด้านหน้าจรดท้าย อันสะท้อนได้ดีถึงความพิถีพิถันและใสใจในทุกรายละเอียดอย่างชัดเจน ทั้งไฟคู่หน้าแบบ Matrix LED อันบางเฉียบเน้นความโฉบเฉี่ยว บานพับประตูเรียบกลืนไปกับตัวรถ และสง่างามด้วยแถบตกแต่งสีทองแดง รวมถึงล้ออัลลอยขนาดใหญ่ถึง 21 นิ้ว

ด้วยระยะฐานล้อ 2,874 มิลลิเมตร บวกกับการออกแบบภายในห้องโดยสารอย่างลงตัว ทำให้เวลาร์มีความกว้างขวางและสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคน พร้อมพื้นที่จัดเก็บสัมภาระซึ่งมีความจุมากถึง 673 ลิตร เบาะนั่งทั้งหมดใช้วัสดุคุณภาพสูงแทนหนังแท้ เพื่อสนับสนุนความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงคุณสมบัติทนทาน กันน้ำ และสวยงาม ขณะที่คอนโซลต่างๆ ดูเรียบหรู มีการลดจำนวนปุ่มควบคุมต่างๆ ให้ดูกลมกลืนมากขึ้น

สิ่งที่ขาดไม่ได้ภายในห้องโดยสารยกระดับของเวลาร์คือ เทคโนโลยีส่งผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์ สาระและความบันเทิงแบบ Touch Pro Duo ประกอบด้วย 2 หน้าจอระบบสัมผัสอันบางเฉียบที่มีความละเอียดสูงขนาด 10 นิ้ว มีการแสดงผลและสามารถใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน ทั้งหมดถูกติดตั้งได้อย่างเรียบเนียนไร้รอยต่อด้วยเทคนิคเฉพาะของแลนด์โรเวอร์ อันสอดคล้องไปกับทิศทางการออกแบบภายนอก

เวลาร์ติดตั้งเครื่องยนต์ Ingemium Diesel 2.0 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร พร้อมอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 145 กรัมต่อกิโลเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ ZF8 ที่ตอบสนองได้ดี มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (All-Wheel Drive System) ควบคู่ไปกับความสามารถควบคุมการขับขี่ โดยปรับตามสภาพภูมิประเทศและพื้นผิวถนน รวมทั้งเทคโนโลยีล่าสุด Terrain Response อีกด้วย

Terrain Response หรือระบบตั้งค่าโหมดขับขี่แบบอัตโนมัติ ตามสภาพภูมิประเทศและพื้นผิวถนน ถูกพัฒนาขึ้นจากระบบเดิมในปี 2013 เพื่อประมวลผลและสั่งการทำงานของระบบต่างๆ อย่างสอดคล้องกัน ทั้งระบบควบคุมความเร็วตามสภาพถนน (All Terrain Progress Control) ระบบช่วยป้องกันไม่ให้ล้อหมุนฟรี บนพื้นผิวที่มีแรงเสียดทานต่ำ (Low Traction Launch) ระบบควบคุมขณะขับลงทางลาดชัด (Hill Descent Control) และระบบควบคุมการปล่อยแรงเบรก ขณะเคลื่อนตัวลงบนทางลาดชัน (Gradient Release Control)

ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และเทคโนโลยีการขับขี่ล้ำหน้าข้างต้น เมื่อมาผสานกับระบบกันสะเทือนช่วงล่างแบบคอยล์สปริงในรุ่นมาตรฐาน ที่พัฒนาปรับแต่งด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Adaptive Dynamics ส่งผลให้เวลาร์ไม่ได้มีดีที่ความสวยความหล่อ แต่กลับใช้งานได้ในทุกสภาพภูมิประเทศและทุกสภาพภูมิอากาศจริง สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 650 มิลลิเมตร ลากจูงน้ำหนัก 2,500 กิโลกรัมอย่างสบายๆ และระบบความปลอดภัยต่างๆ เต็มพิกัด

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *