web analytics

ติดต่อเรา

25 ปี สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ชวนคุณมารู้จัก 25 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับสตาร์บัคส์

เมื่อพูดถึงร้านกาแฟ หนึ่งในร้านที่จะนึกถึงคือ ‘สตาร์บัคส์’ รู้หรือไม่ว่าปีพ.ศ. 2566 นี้ ร้านโปรดของใครหลาย ๆ คนได้เดินทางเข้าสู่ปีที่ 25 ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยแล้ว หากเปรียบเหมือนมนุษย์ ช่วงนี้เป็นเวลาแห่งการเติบโต เรียนรู้สิ่งรอบข้าง เปิดประสบการณ์  และเผชิญความท้าทายต่าง ๆ เช่นเดียวกับสตาร์บัคส์ ประเทศไทย ซึ่งกำลังเติบโตอย่างสง่างาม ด้วยรากฐานอันแข็งแกร่งจากคอกาแฟและแฟนๆ สตาร์บัคส์ ที่มอบการสนับสนุนมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี และยังคงมองหาสิ่งใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงยกระดับ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

ในโอกาสครบรอบ 25 ปี สตาร์บัคส์ ประเทศไทยนี้ เราจะชวนคุณมารู้จัก 25 เรื่องราวเกี่ยวกับสตาร์บัคส์ ร้านกาแฟร้านโปรดที่คุณอาจยังไม่รู้

1.ชื่อแบรนด์ Starbucks นี้มาจากไหน

มาจากนวนิยายเรื่องโมบิดิก (Moby-Dick) หนังสือเล่มโปรดของผู้ก่อตั้งสตาร์บัคส์ทั้ง 3 คน คือ เจอร์รี บัลด์วิน (Jerry Baldwin), เซฟ ซีเกิล (Zev Siegl) และ กอร์ดอน โบว์เกอร์ (Gordon Bowker) ในปี พ.ศ. 2530 ฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ (Howard Schultz) อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของสตาร์บัคส์ผู้หลงใหลในวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ ได้เข้ามาซื้อสตาร์บัคส์และตั้งชื่อว่า ‘Starbucks Coffee Company’

2.สตาร์บัคส์อยู่ในไทยมา 25 ปีแล้วนะ

สตาร์บัคส์ ได้เข้ามาดำเนินกิจการในไทย และเปิดร้านสาขาแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2541 ในกรุงเทพมหานคร ที่เซ็นทรัลชิดลม (ปัจจุบันสาขานี้ได้ปิดบริการแล้ว)

3.สตาร์บัคส์มีสาขาทั้งหมด 464 สาขา ทั่วไทย[1] โดยเป็นร้านแบบไดรฟ์-ทรู (Drive-thru) หรือร้านที่สามารถขับรถเข้าไปสั่งเครื่องดื่มได้โดยไม่ต้องลงจากรถ จำนวนทั้งหมด 57 สาขา 

4.ร้านสตาร์บัคส์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทยคือร้านสตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ เจ้าพระยา ริเวอร์ฟร้อนท์ ที่ไอคอนสยาม ชั้น 7

มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 1,260 ตารางเมตร  รองรับลูกค้าได้ 350 ที่นั่ง  แบ่งเป็นส่วน Indoor และ Outdoor พร้อมมอบประสบการณ์รูปแบบใหม่ คือ เป็นสาขาแรกที่เสิร์ฟเครื่องดื่มจากช็อตกาแฟสตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์ ซึ่งปลูกในพื้นที่ภาคเหนือของไทย และมี บาร์ ทีวาน่า (Teavana™ Bar) แห่งแรกของไทย สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มองหาประสบการณ์การดื่มชาในคอนเซ็ปต์ใหม่

[1] ข้อมูล ณ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2566

5.ผ้ากันเปื้อนแต่ละสีมีความหมายต่างกัน

  • ผ้ากันเปื้อนสีเขียว สำหรับพาร์ทเนอร์ทั่วไป ที่ผ่านการอบรมบาริสต้าตามหลักสูตรของร้านสตาร์บัคส์
  • ผ้ากันเปื้อนสีดำ สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ได้ผ่านการอบรมตามหลักสูตรของร้านสตาร์บัคส์ และมีการสอบวัดระดับในแต่ละขั้น เพื่อเป็นคอฟฟี่มาสเตอร์ (Coffee Master) หรือผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟของสตาร์บัคส์

6.11 เครื่องดื่มสุดเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะประเทศไทย ที่ไม่ควรพลาด

เพราะเข้าใจว่าลูกค้าในแต่ละประเทศอาจมีความชื่นชอบต่างกันออกไป สตาร์บัคส์จึงตั้งใจรังสรรค์เมนูพิเศษขึ้นสำหรับแต่ละประเทศ เพื่อให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด สำหรับเครื่องดื่มพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะในไทยมีทั้งสิ้น 11 เมนู อาทิเช่น Matcha White Chocolate Affogato Frappuccino®, Green Tea Chocolate Malt Cold Brew, Matcha Java Chip Affogato, Homsuwan Pineapple Cold Brew, Homsuwan Pineapple Hibiscus Tea, Homsuwan Pineapple Black Tea, Yuzu Cold Brew, Yuzu Hibiscus Tea, Yuzu Black Tea, Signature Chocolate Cream Chip Frappuccino®, Lychee Earl Grey Tea*

*เมนูนี้มีจำหน่ายเฉพาะที่สาขา Starbucks Reserve® Chao Phraya Riverfront at Icon Siam 

7.รับความพิเศษจากสตาร์บัคส์ได้ง่าย ๆ

สามารถสมัครได้ง่ายๆ ที่แอปพลิเคชัน Starbucks Thailand (รองรับทั้งระบบ iOS และ Android) หรือผ่านบัญชี LINE OA ของทางสตาร์บัคส์ก็ได้เช่นกัน เมื่อเป็นสมาชิกแล้ว ทุกการใช้จ่ายจะสามารถสะสมดาวเพื่อแลกรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ (25 บาท = 1 ดวง)

8.ทำอย่างไรถึงจะได้รับสิทธิพิเศษแลกเครื่องดื่มที่ชื่นชอบได้ทุกขนาดฟรี รวมถึงรับขนม เครื่องดื่มฟรีในเดือนเกิด

เมื่อสมาชิก Starbucks® Reward ระดับ Green สะดาวครบ 300 ดวงภายใน 1 ปี จะได้ปรับระดับเป็น Gold ซึ่งสมาชิกระดับ Gold จะได้สิทธิพิเศษ รับเครื่องดื่มและขนมฟรีในเดือนเกิด รวมถึงนำดาวที่สะสมทุก ๆ 120 ดวง มาแลกรับเครื่องดื่มทุกขนาดได้ฟรีด้วย

9.สตาร์บัคส์มีของให้ลูกค้าสามารถหยิบฟรีได้ คือ กากกาแฟ นั่นเอง

ลูกค้าที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้ สามารถรับกากกาแฟจากตะกร้าที่จุดบริการภายในสาขาได้ฟรี หรือสอบถามกับพนักงานของร้าน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โลกของเรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม #GroundsForYourGarden ที่สตาร์บัคส์สนับสนุนตลอดมา 

10.นอกจากเครื่องดื่มแล้ว ยังมีสตาร์บัคส์บางสาขาที่จำหน่าย Soup & Pasta ด้วย

หากอยากเติมพลังระหว่างวัน ก็มีซุปและพาสต้าให้เลือกอร่อยถึง 4 เมนู ได้แก่ 1. Creamy Mushroom Soup 2. Corn Soup 3. Fusilli Bolognese 4. Penne Arrabiata With Smoked Sausage 

11.5 เมนูยอดฮิตตลอดกาลของสตาร์บัคส์ เคยลองกันหรือยัง

  1. เพียว มัทฉะ แฟรบปูชิโน่ (Pure Matcha Frappuccino Blended Beverage)
  2. บราวน์ ชูการ์ โคลด์ บรูว์ (Brown Sugar Cold Brew)
  3. สตรอเบอร์รี่ อาซาอิ วิธ เลมอนเนด สตาร์บัคส์ รีเฟรชเชอร์ (Strawberry Açaí with Lemonade Starbucks Refreshers™)
  4. พิงค์ ดริงค์ วิธ สตรอเบอร์รี่ อาซาอิ สตาร์บัคส์ รีเฟรชเชอร์ (Pink Drink with Strawberry Açaí Starbucks Refreshers™)
  5. กรีนที ช็อกโกแลต มอล์ต โคลด์ บรูว์ (Green Tea Chocolate Malt Cold Brew)

12.ที่สตาร์บัคส์มีเมนูขนมอบสดใหม่จากเตาด้วยนะ

ขอแนะนำ 5 เมนูขนมอบสดใหม่ที่อร่อยจนต้องลอง ได้แก่ 1. Butter Croissant 2. Pain Au Raisin 3. Almond Praline Finger 4. Ham Cheese Lattice 5. Strawberry Tart ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการทั้งหมด 48 สาขา

13.ทริคการสั่งเครื่องดื่มสตาร์บัคส์แก้วโปรดแบบง่าย ๆ

  1. เริ่มสั่งจากชื่อเครื่องดื่ม
  2. แจ้งพาร์ทเนอร์ว่าต้องการเป็นแบบร้อน เย็น หรือปั่น
  3. แจ้งขนาดแก้ว (Short ขนาด 8 ออนซ์ เฉพาะเครื่องดื่มร้อน/ Tall ขนาด 12 ออนซ์ / Grande ขนาด 16 ออนซ์ / Venti 20 ออนซ์)
  4. เลือกปริมาณคาเฟอีน – Regular, Half-Decaf, Decaf
  5. เลือกประเภทนม – นมวัว, นมไขมันต่ำ (non-fat), นมถั่วเหลือง, นมข้าวโอ๊ต, นมอัลมอนด์, นมมะพร้าว
  6. เลือกเพิ่มหรือลดความหวานได้

14.ทำไมขนาดของเครื่องดื่มของสตาร์บัคส์ถึงต้องเป็น Tall, Grande, Venti ทำไมไม่เป็น S, M, L

ด้วยความหลงใหลในวัฒนธรรมการดื่มกาแฟแบบอิตาลีของคุณฮาวเวิร์ด ชูลท์ซ (Howard Schultz) จึงใช้ภาษาอิตาเลียนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของสตาร์บัคส์ และในช่วงปลายปียุค 1990 คอกาแฟทั้งหลายเรียกร้องให้สตาร์บัคส์เพิ่มขนาดแก้ว เลยมีเครื่องดื่มขนาด Venti ขึ้นมา ปัจจุบันแก้วเครื่องดื่มในร้านสตาร์บัคส์จึงมี 4 ขนาดหลัก ได้แก่ Short ขนาด 8 ออนซ์ เฉพาะเครื่องดื่มร้อน Tall ขนาด 12 ออนซ์, Grande ขนาด 16 ออนซ์ และ Venti ขนาด 20 ออนซ์

15.ถ้าไม่อยากดื่มนมวัว สามารถสั่งนมทางเลือกอะไรได้บ้าง

ใครที่ชื่นชอบนมทางเลือก เรามีนมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง นมข้าวโอ๊ต นมมะพร้าว รวมถึงวิปครีมข้าว (Rice whipped cream) โดยมีตัวอย่างเครื่องดื่มที่น่าลิ้มลอง เช่น กรีนที ซอย จาวาชิป แฟรบปูชิโน่ วิธ ไรซ์วิปครีม (Green Tea Soy Java Chip Frappuccino® with Rice Whipped Cream) และ ไอซ์ โอ๊ตมิลค์ ซิกเนเจอร์ ช็อกโกแลต วิธ ไรซ์วิปครีม (Iced Oatmilk Signature Chocolate with Rice Whipped Cream) 

16.สตาร์บัคส์ไม่ได้มีแค่เมนูกาแฟ แต่ยังมีเครื่องดื่มเติมความสดชื่นด้วย

ขอแนะนำกลุ่มเครื่องดื่ม สตาร์บัคส์ รีเฟรชเชอร์ (Starbucks Refreshers™) ซึ่งเป็นเครื่องดื่มเชคจากการผสมผสานอย่างลงตัวของน้ำผลไม้และเนื้อผลไม้ ประกอบด้วย สตรอเบอร์รี่ อาซาอิ วิธ เลมอนเนด สตาร์บัคส์ รีเฟรชเชอร์ (Strawberry Açaí with Lemonade Starbucks Refreshers™) และ พิงค์ ดริงค์ วิธ สตรอเบอร์รี่ อาซาอิ สตาร์บัคส์ รีเฟรชเชอร์ (Pink Drink with Strawberry Açaí Starbucks Refreshers™) ที่ผสมผสานนมมะพร้าว เติมความสดชื่นดับกระหายได้เป็นอย่างดี

17.ไม่ต้องพกเงินสด ก็อิ่มอร่อยกับเครื่องดื่มและขนมที่ร้านสตาร์บัคส์ได้

กับร้าน Starbucks Cashless Store ที่เพิ่มความสะดวกสบาย ให้ทุกคนเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มและขนมอร่อย ๆ รวมถึงช้อปสินค้าสตาร์บัคส์แบบไม่ต้องพกเงินสด โดยเลือกชำระเงินผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่

  1. จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน Starbucks Thailand
  2. จ่ายผ่านบัตร Starbucks Card
  3. จ่ายผ่านบัตรเครดิตและเดบิต
  4. จ่ายผ่าน QR code

18.ดื่มกาแฟแก้วโปรด พร้อมช่วยพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟ ไปกับกาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์

สตาร์บัคส์ ม่วนใจ๋ เบลนด์ เป็นการผสมผสานเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้าชั้นดีปลูกในพื้นที่ภาคเหนือของไทย และหมู่เกาะอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิก ให้รสชาติหนักแน่น นุ่มลึก และกลิ่นไอดินธรรมชาติ ทั้งยังผ่านการรับซื้อในราคายุติธรรม รายได้ 5 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้จากการจำหน่ายกาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์ และทุก ๆ 10 บาท จากการจำหน่ายกาแฟ สตาร์บัคส์ ที่สตาร์บัคส์สาขาร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Community Store) จะนำไปพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทยให้ดีขึ้น 

19.ร้าน Starbucks Reserve คืออะไร แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร และในไทยมีกี่สาขา

Starbucks Reserve™ คือร้านที่มีกาแฟหายากเฉพาะฤดูกาล รสชาติโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยวางจำหน่ายเพียงบางสาขาในระยะเวลาจำกัด เมล็ดกาแฟบางชนิดอาจวางจำหน่ายเพียงครั้งเดียว และไม่มีจำหน่ายอีกเลย โดยในปัจจุบันมีร้าน Starbucks Reserve™ จำนวน 22 สาขา*

* มี 13 สาขาที่เป็น Full Experience Bar

20.อยากเป็นบาริสต้าแต่ไม่มีความรู้เรื่องกาแฟ สตาร์บัคส์ก็มีเวิร์คชอปด้วย

ใครอยากเปิดประสบการณ์แห่งโลกกาแฟสตาร์บัคส์ ก็มีเวิร์คชอปสนุกๆ เรียนรู้เทคนิคการชงกาแฟด้วยเครื่องชงหลายประเภท สอนโดย Coffee Master ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟสามารถ สอบถามและเข้าร่วมเวิร์คชอปได้ที่ร้านสตาร์บัคส์ 2 สาขา ได้แก่ Central World ชั้น 5 (Atrium Zone) และ Starbucks ReserveTM Chao Phraya Riverfront ICONSIAM ชั้น 7

21.ทำไมพนักงานของสตาร์บัคส์ถึงจำชื่อของลูกค้าได้แม่นยำ

นอกจากจะมุ่งมั่นรังสรรค์เครื่องดื่มทุกแก้วให้สมบูรณ์ อีกสิ่งสำคัญคือการผูกสัมพันธ์กับลูกค้า เพราะเราเชื่อว่าแม้ช่วงเวลาสั้นๆ ก็สามารถสร้างรอยยิ้ม ให้ลูกค้าได้ ตามแนวคิด “People Business Serving Coffee” ที่เน้นการส่งมอบ “Starbucks Experience” หรือ “ประสบการณ์สตาร์บัคส์” รวมถึงความเป็น Third Place หรือบ้านหลังที่ 3 ซึ่งลูกค้าสามารถมาใช้เวลาพักผ่อน สังสรรค์ หรือทำงานได้อย่างเต็มที่

22.ขนมและอาหารของสตาร์บัคส์ ได้ถูกแบ่งปันให้กับชุมชน

สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (Scholars of Sustenance – SOS) ดำเนินการ ‘โครงการรักษ์อาหาร’ ส่งมอบอาหารส่วนเกินคุณภาพดีให้ผู้ที่ต้องการอย่างเป็นระบบ โดยทาง SOS จะตรวจสอบความสะอาด และความปลอดภัยทางอาหารก่อนนำไปแจกจ่ายให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า สถานพักพิง ชุมชนรายได้ต่ำ รวมถึงกลุ่มเปราะบางอื่น ๆ ในสังคม

23.โต๊ะในสตาร์บัคส์ที่คุณนั่งอยู่ อาจทำมาจากกากกาแฟ

สตาร์บัคส์จับมือกับ ผศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์ นักออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อมชื่อดัง สร้าง “ร้านกาแฟสีเขียว” และยังมี Sonite Innovative Surfaces มาร่วมพัฒนากากกาแฟเหลือใช้ให้เป็นวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายใน ออกมาเป็น วัสดุจากกากกาแฟที่เรียกว่า Java Core ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ไว้สำหรับทำเคาน์เตอร์ ไปจนถึงโต๊ะกลาง และบาร์สำหรับวางเครื่องปรุง

24.ในไทยมีร้านสตาร์บัคส์เพื่อชุมชนด้วยนะ

ร้านสตาร์บัคส์สาขาหลังสวน คือร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Community Store) แห่งแรกในเอเชีย และเปิดดำเนินการเป็นแห่งที่ 4 ของโลก โดยดำเนินการภายใต้คำมั่นสัญญาของสตาร์บัคส์ที่ต้องการตอบแทนชุมชน ผ่านการมอบรายได้ 10 บาท จากการจำหน่ายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้ว ให้แก่ชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทย

25.ไม่อยากพลาดข่าวสารจากสตาร์บัคส์ เตรียมกด Follow หรือ Add ช่องทางเหล่านี้ไว้เลย

กดติดตามหรือเป็นเพื่อนกับสตาร์บัคส์ เพื่ออัปเดทโปรโมชั่นและข่าวสารผ่านช่องทางเหล่านี้ ทั้ง Facebook/Instagram/ LINE/ TikTok/ Youtube/ Website รวมถึงแอปพลิเคชัน Starbucks Thailand (รองรับทั้ง iOS และ Android) กับบริการ Mobile Order-ahead & Pick Up at Store ที่สามารถออเดอร์ล่วงหน้าและ ไปรับที่ร้านได้โดยไม่ต้องรอคิว หรือเลือกใช้บริการ Starbucks Delivery  ที่ช่วยให้การสะสมดาวสะดวกยิ่งขึ้นในทุกออเดอร์ และสามารถสั่งผ่าน Grab, LINE MAN, ShopeeFood, foodpanda และ Robinhood ได้เช่นกัน

 

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *