web analytics

ติดต่อเรา

Porsche Cayenne Generation3 ที่สุดแห่งเอสยูวีสายพันธุ์สปอร์ต

เรื่อง: sirote petchjamroensuk

ถือเป็นปรากฏการณ์ปลายเดือนสิงหาคม ที่เขย่าโลกยานยนต์โลกไม่น้อย สำหรับการเปิดตัวอย่างอลังการของเอสยูวีพี่ใหญ่อย่างปอร์เช่ คาเยนน์ รุ่นที่ 3 หลังจากรุ่นแรกเปิดตัวและได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายไปเมื่อปี 2002 ไม่ใช่แค่การกลับลำมาทำรถสปอร์ตยกสูง แต่กลับเป็นการตอบคำถามทั้งแฟนเก่าที่ยึดติดกับดีเอ็นเอของรถสปอร์ตแท้อย่างเหนียวแน่น และแฟนใหม่ให้ตระหนักและยอมรับการมาของยนตกรรมสปอร์ตอีกสายพานการผลิตหนึ่ง อย่างปราศจากข้อสงสัย

แน่นอนว่าโลกปัจจุบันนั้นอยู่ในยุคดิจิตัลอย่างเต็มตัว และมีเครือข่ายแห่งอนาคตที่กำลังขยายตัวอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้คาเยนน์ เจเนอเรชันที่ 3 ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานดังกล่าว แต่ขณะเดียวกันก็มีโจทย์การออกแบบคู่ขนานกันอีกว่า จะต้องสะท้อนเอกลักษณ์และอัตตลักษณ์ของปอร์เช่ออกมาให้ได้ยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยทั้งหมดล้วนสะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบเพื่อวันพรุ่งนี้อย่างแท้จริง

คาเยนน์ใหม่อาศัยบรรทัดฐานจากรถสปอร์ตในตำนานอย่างปอร์เช่ 911 ด้วยทรวดทรงและเส้นสายจากหัวจรดท้ายอันละม้ายคล้ายคลึง ไม่ว่าจะมองจ้องหน้ากันตรงๆ มองทางด้านข้าง หรือมองมาจากทางด้านหลังก็ตามที แต่เหนือไปกว่านั้น มีการติดตั้งยางต่างขนาดและระบบช่วยเลี้ยวล้อหลังหรือ Rear-Axel Steering ลงในรถเอสยูวีของปอร์เช่เป็นครั้งแรก ให้ความมั่นใจกับสมรรถนะขับขี่บนทางเรียบ และมั่นใจยิ่งกว่าในทุกจังหวะความเร็วจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Active All-Wheel Drive ซึ่งติดตั้งเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ยังพร้อมรองรับทุกรูปแบบการขับขี่ด้วยระบบ Porsche 4D Chassis Control ระบบช่วงล่างถุงลมเทคโนโลยี Three-Chamber Air Suspension ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) รวมถึงระบบ Electronic Roll Stabilisation และนวัตกรรมระบบเบรกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นล่าสุด Porsche Surface Coated Brake (PSCB)

ส่วนขุมกำลังนั้น ในช่วงแรกเปิดให้เป็น 2 ทางเลือกคือ คาเยนน์รุ่นมาตรฐานจะมากับเครื่องยนต์ 6 สูบใหม่ พลังเทอร์โบขนาดความจุ 3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า (250 กิโลวัตต์) เพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าถึง 40 แรงม้า (29 กิโลวัตต์) และคาเยนน์ เอส จะเป็นเครื่องยนต์วี 6 ไบเทอร์โบ ขนาดความจุ 2.9 ลิตร พละกำลังมหาศาลถึง 440 แรงม้า (324 กิโลวัตต์) กำลังเพิ่มขึ้นอีก 20 แรงม้า (15 กิโลวัตต์) จากรุ่นก่อนหน้า

คาเยนน์ เอส ทะยานทะลุพิกัดความเร็วสูงสุดกว่า 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปยังความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 5 วินาที เมื่อติดตั้งชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะสปอร์ต โครโน (Sport Chrono Package) ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 จังหวะ Tiptronic S เหมือนกันทั้งสองรุ่น พร้อมระบบตัวถังใหม่ที่ทำให้ลดน้ำหนักตัวลงได้ถึง 65 กิโลกรัม

ที่สำคัญ ยังติดตั้งนวัตกรรมการควบคุมพร้อมแสดงผล ด้วยหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง Porsche Advanced Cockpit เพื่อประสิทธิภาพในการบังคับควบคุมสไตล์สปอร์ต โดยคงไว้ด้วยความนุ่มนวลสะดวกสบายขณะโดยสารเดินทาง และรักษาสมรรถนะในการบุกตะลุยเส้นทางออฟ-โรดอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *