web analytics

ติดต่อเรา

“CU TOYOTA Ha:mo” โครงการแบ่งปันรถกันใช้ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก

คุณนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ มร.เคอิจิ ยามาโมโตะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท คอนเน็คเต็ด พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.บุญไชย สถิตมั่นในธรรม รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกาศเปิดตัวความร่วมมือโครงการ “CU TOYOTA Ha:mo” 

 

โครงการนี้มีชื่อว่า “CU TOYOTA Ha:mo” ซึ่งถือกำเนิดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในโอกาสครบรอบ 55 ปีของการก่อตั้งบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยจะมีการทดลองระบบการแบ่งปันรถกันใช้ ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก (EV sharing) เพื่อวิ่งในระยะสั้นๆ ภายในพื้นที่โดยรอบของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะจากต้นทางไปยังจุดหมายปลายทางของผู้ใช้งาน

โครงการจะเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป โดยในช่วงระยะเริ่มต้นจะมีรถที่ให้บริการทั้งหมด 10 คัน และมีแผนจะเพิ่มจำนวนรถอีก 20 คันในกลางปีหน้า รวมจำนวนรถทั้งสิ้น 30 คันที่จะให้บริการในช่วงระยะเวลา 2 ปี โดยพื้นที่การให้บริการจะครอบคลุมในบริเวณจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งสองฝั่ง โดยทางโครงการจะเตรียมสถานีจอดรถไว้ทั้งหมด 12 สถานี กระจายครอบคลุมเพื่อรองรับความต้องการใช้งาน พร้อมทั้งติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า 10 สถานี และมีจำนวนช่องจอดรถให้บริการทั้งหมด 33 ช่องจอด ทำให้สามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการในการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และรถโดยสารประจำทาง  กลุ่มเป้าหมายในการให้บริการคือนิสิต อาจารย์ บุคลากรและประชาชนทั่วไป โดยผู้ใช้บริการจะต้องสมัครเป็นสมาชิกของโครงการผ่านระบบออนไลน์หรือมาสมัครด้วยตนเองที่สำนักงานโครงการที่ตั้งอยู่ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ค่าบริการเริ่มต้นที่ 30 บาทต่อครั้ง สามารถใช้รถได้ 20 นาที

นอกจากนี้ โครงการยังวางแผนที่จะให้ “CU TOYOTA Ha:mo” เป็นเวทีเปิด เพื่อร่วมพัฒนาสู่นวัตกรรมการเดินทางของสังคมในอนาคต โดยมุ่งเน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมจากบุคคลและภาคประชาสังคมในเรื่องระบบการแบ่งปันรถกันใช้ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก อันเกิดจากการพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่กับการพัฒนาสังคม  การเปิดโอกาสให้ทั้งบริษัทที่สนใจ นิสิตนักศึกษา นักวิจัย อาจารย์ และองค์กรต่างๆ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ ช่วยให้สามารถรวบรวมแนวคิดต่างๆ คัดเลือกแนวทาง พัฒนาแผนโครงการ ตลอดจนทดลองใช้ในพื้นที่จริง ซึ่งจะเป็นแนวทางต่ออนาคตของระบบการแบ่งปันรถกันใช้ในประเทศไทย

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *