web analytics

ติดต่อเรา

เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุกหนักตลาดเอสยูวี เปิดตัวรถยนต์ GLC Coupé รุ่นประกอบในประเทศ และครอสโอเวอร์สายพันธุ์แรงรุ่นล่าสุด Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé

มร.ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รถยนต์ตระกูลเอสยูวี ถือเป็นกลุ่มรถยนต์ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากในปีที่ผ่านมา กลุ่มรถยนต์เอสยูวีเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตสูงสุดด้วยยอดขายทั่วโลกกว่า 706,170 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ดังนั้น เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์หรู รวมถึงเพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ที่จะไม่หยุดนิ่งในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้ และวันข้างหน้า เราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการและทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง

รถยนต์รุ่นประกอบในประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เราตั้งใจนำเสนอให้กับลูกค้าทุกท่าน โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด

ได้ทำงานร่วมกันเพื่อศึกษาและคาดการณ์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง พร้อมทั้งคัดเลือกรุ่นรถยนต์ที่ดำเนินการประกอบภายในประเทศ เพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ ของรถให้เหมาะสมกับสภาพท้องถนนตลอดจนลักษณะการขับขี่และการใช้งานในเมืองไทย

ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือเป็นแบรนด์รถหรูเพียงแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่มีการประกอบรถยนต์ภายในประเทศครบทั้ง 3 ขั้นตอนหลัก ตั้งแต่การประกอบโครงสร้างตัวถังรถ (Body shop) ซึ่งประกอบด้วยชิ้นส่วนที่มีทั้งเหล็กชนิดพิเศษและอลูมิเนียม เพื่อความแข็งแรงและน้ำหนักเบา การทำสี (Paint) ซึ่งใช้มาตรฐานการทำสีของเมอร์เซเดสเบนซ์ และการประกอบขั้นสุดท้าย (Final Assembly)

ด้วยความพิถีพิถันโดยมีการใช้อะไหล่ที่ผลิตในประเทศมากกว่า 40% ภายใต้มาตรฐานคุณภาพการประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์จาก บริษัท เดมเลอร์ เอจี ประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังถือเป็นค่ายรถยนต์หรูเพียงรายเดียวในประเทศไทย ที่นำเสนอรถยนต์รุ่นประกอบในประเทศที่มีจำนวนรุ่นให้เลือกสรรมากที่สุด

โดยหลังจากการเปิดตัว The GLC Coupé รุ่นประกอบประเทศไทยวันนี้ จะส่งผลให้ในปัจจุบัน ทางบริษัทฯ ได้นำเสนอรถยนต์รุ่นประกอบในประเทศถึง 21 รุ่น ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Compact Car, Contemporary Luxury, Dream Car และ SUV รวมถึงรถยนต์เทคโนโลยี ปลั๊กอินไฮบริด

ภายใต้แบรนด์ EQ – Electric Intelligence by Mercedes-Benz อีกด้วย ทั้งนี้ เรายังคงตั้งใจที่จะผลิตรถยนต์รุ่นประกอบในประเทศเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยให้ดีที่สุด” มร. ไมเคิล กล่าวเพิ่มเติม

มร.ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย รถยนต์ในกลุ่มเอสยูวีนั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าด้วยเช่นกัน ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ มีผลจากการที่เมอร์เซเดสเบนซ์ นำเสนอ รุ่นรถยนต์ที่หลากหลาย

สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าผู้ชื่นชอบรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ทั้งการเดินทางในเมืองและนอกเมืองได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันเมอร์เซเดสเบนซ์ มีรถยนต์กลุ่มเอสยูวีทั้งหมด 11 รุ่นที่ครอบคลุมทุกขนาดและเซ็กเมนต์

ได้แก่ GLA 200 Urban, GLA 250 AMG Dynamic, GLC 250 d 4MATIC OFF-ROAD,  GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic, GLE 500 e 4MATIC Exclusive, GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic, GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic, GLS 350 d 4MATIC AMG Premium, G 350 d Sport รวมถึงรถยนต์รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในวันนี้ อย่าง GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic และ GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Plus”

“GLC 250 d 4MATIC Coupé” รุ่นประกอบในประเทศไทย เป็นยนตรกรรมขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวีและความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ของรถยนต์คูเป้เข้าไว้ด้วยกัน

ซึ่ง The GLC Coupé มีให้เลือกสรรถึง 2 แบบ คือ GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic และ GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Plus ที่มาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่ดูปราดเปรียว ด้วยลายเส้นโค้งเว้า ให้ความรู้สึกพลิ้วไหว รวมถึงการออกแบบภายในที่เน้นความหรูหรา ทันสมัย แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงกลิ่นอายของความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิ

นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังตอกย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพของรถยนต์สมรรถนะสูง ผ่านการนำเสนอรถยนต์รุ่น Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความแรงของเครื่องยนต์ ดังคำนิยามที่ว่า “Driving Performance”

ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้นับเป็นสมาชิกลำดับที่ ภายใต้แบรนด์  Mercedes-AMG ที่มาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอให้ครบครันมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่น Mercedes-AMG A 45 4MATIC, Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG C 63 S Coupé, Mercedes-AMG SLC 43, Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupé, Mercedes-AMG GT Sก่อนหน้านี้ ซึ่งรถยนต์รุ่น Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé มาพร้อมกับเครื่องยนต์  V6 ผสานพลังกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย” มร.ฟรังค์ กล่าวปิดท้าย

GLC 250 d 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศไทย

ยนตรกรรมที่ผสานความอเนกประสงค์ของรถยนต์สไตล์เอสยูวีและความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ของรถยนต์คูเป้เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมโดดเด่นด้วยการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างลงตัว

โดยรถยนต์รุ่นนี้มีกลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ทั้งการเดินทางในเมืองและนอกเมืองได้เป็นอย่างดี ซึ่ง The GLC Coupé รุ่นประกอบในประเทศไทย มีให้เลือกสรรถึง 2 แบบ

คือ GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic และ GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Plus ที่มาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่ดูปราดเปรียว ด้วยลายเส้นโค้งเว้า ให้ความรู้สึกพลิ้วไหว รวมถึงการออกแบบภายในที่เน้นความหรูหรา ทันสมัย แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงกลิ่นอายของความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม รวมถึงการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และระบบความปลอดภัยมาตรฐาน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อมอบความมั่นใจให้กับลูกค้าชาวไทยทุกท่าน

ดีไซน์ภายนอก ของทั้ง รุ่น มาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ มีสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ขนาดใหญ่ตรงกลาง เสริมไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System และไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED fibre-optic เพื่อการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพเส้นสายหลังคาและลายเส้นด้านข้างถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย ที่เน้นดีไซน์แบบ เรียบหรู ล้ำสมัยเสริมโครงสร้างตัวรถให้ดูทรงพลังและสง่างามไปพร้อมกัน

ด้านท้ายเพิ่ม ความแข็งแกร่งดุดันด้วยปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม ท่อ พร้อมด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling (กันชนหน้า-หลัง), ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ multi-spoke ขนาด 20 นิ้ว ระบบกันสะเทือนแบบ DYNAMIC BODY CONTROL, หลังคาซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

ดีไซน์ภายใน ของ The GLC-Class Coupé มาพร้อมจุดเด่นภายในห้องโดยสาร อย่าง แดชบอร์ดและคอนโซลกลางที่มีขอบลายเส้นที่ดูไหลลื่น โดยแผงคอนโซลที่มีขนาดใหญ่และถูกออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวนี้ วางทอดตัวยาวจากช่องลมระบบปรับอากาศบริเวณตรงกลางของแผงหน้าปัดลงมาจนถึงพนักวางแขนบริเวณกึ่งกลางระหว่างเบาะที่นั่งของผู้ขับขี่กับผู้โดยสารตอนหน้า

ซึ่งเส้นสายบริเวณแผงคอนโซลที่ดูเรียบง่ายแต่เร้าอารมณ์ช่วยให้ห้องโดยสารดูกว้างขวาง เรียบง่าย และ ล้ำสมัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถยนต์ทั้ง 2แบบยังมาพร้อมกับพวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ เพื่อเสริมความรู้สึกสปอร์ตให้มากขึ้น

และช่วยเสริมความรู้สึกสปอร์ตเมื่อเลือกใช้โหมดของระบบกันสะเทือนแบบ COMFORT,SPORT และ SPORT+, ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO, ฟังก์ชัน ECO start/stop, ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติTHERMATIC แบบ โซนเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมบันทึกหน่วยความจำ

โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3/2:3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่กว้างขวางด้วยความจุ 500-1,400 ลิตร

ซึ่งนับเป็นความจุที่มากที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์กลุ่มเดียวกัน รวมถึงระบบมัลติมีเดีย อย่าง ระบบวิทยุ-ซีดี MB Audio 20, ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ Bluetooth, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad

และระบบรองรับการใช้งานอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลังระบบแผนที่นำทาง (SD-Card Navigation System), ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester®ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display)

โดย GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Plus ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ตพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ตเบาะนั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ต และพรมปูพื้นพร้อมสัญลักษณ์ AMG

ความปลอดภัยและเทคโนโลยี ของ The GLC Coupé มาพร้อมกับระบบ “Mercedes-Benz Intelligent Drive” เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ โดยระบบดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากแนวคิดการปกป้องก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ระบบควบคุมอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียวที่ทำงานสอดประสานกัน

ไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® system, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program – ESP®พร้อมระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist), ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่นHOLD

และ Hill-Start Assist, ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS), ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ (ATTENTION ASSIST), ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control)

และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC), เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC), กล้องแสดงภาพรอบทิศทางระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist), ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ(ASSYST service interval indicator), ระบบเตือนแรงดันยาง (Tyre pressure loss warning system), เป็นต้น

พร้อมทั้งระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA (Active Brake Assist system) ที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับรถยนต์ The GLC-Class Coupé รุ่นประกอบในประเทศโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบส่งกำลังที่รองรับระบบ DYNAMIC SELECT ซึ่งมีโหมดการขับขี่ 5แบบ คือ ECO ที่ช่วยปรับการขับขี่เข้าสู่ระบบประหยัดน้ำมัน, INDIVIDUAL ที่สามารถบันทึกรูปแบบการขับขี่ที่ผู้ขับขี่กำหนดไว้ได้, COMFORT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน, SPORT และSPORT+ เน้นการเพิ่มความเร้าใจให้กับการขับขี่มากยิ่งขึ้น

Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé

Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé รถยนต์เอสยูวีคูเป้รุ่นล่าสุดจากค่าย AMG ที่มาพร้อมระบบส่งกำลัง AMG Performance 4MATIC และความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว จากดีไซน์ภายนอก จากชุดตกแต่ง AMG bodystyling (กันชนหน้า-หลัง), ล้ออัลลอย ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ  5 ก้านขนาด 21 นิ้ว, AMG Spoiler-lip (สปอยเลอร์ด้านหลังบนฝากระโปรงท้าย), ปลายท่อไอเสีย 2 ท่อ (4-pipe look), ท่อไอเสียแบบ AMG Sports exhaust system, ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน, คาลิปเปอร์เบรกสีเทาพร้อมสัญลักษณ์ AMG และช่วงล่างแบบ AMG sports Suspension Based on AIR BODY CONTROL ซึ่งมาช่วยเสริมความดุดันให้กับรถยนต์รุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี

ดีไซน์ภายใน โดดเด่นด้วยเบาะที่นั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ต โดยเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด,

พวงมาลัยนิรภัยพร้อมพาวเวอร์ ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ, กาบบันไดเรืองแสงประตูหน้าแบบ AMG และ AMG DYNAMIC SELECT และอุปกรณ์มัลติมีเดีย อย่าง วิทยุ-ซีดี MB Audio 20,

ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester®, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad, ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Bluetooth), ระบบนำทาง รวมถึงหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี มาพร้อมกับระบบ DYNAMIC SELECT ที่มีโหมดการขับขี่อันหลากหลาย ซึ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถสัมผัสถึงการขับขี่แบบเร้าใจหรือการขับขี่แบบนุ่มสบายตลอดการเดินทางได้ในคันเดียว โดย DYNAMIC SELECT มีโหมดการขับขี่ 4 แบบ คือ INDIVIDUAL ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้, CONFORT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายเหมือนขับรถซาลูน, SLIPPERY เหมาะกับการวิ่งบนถนนที่ลื่น, SPORTเน้นการเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังได้ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบอากาศพร้อมระบบควบคุมระดับ ADS (Adaptive Damping System) เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสภาพถนน และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อย่างครบครัน

Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC และเครื่องยนต์แบบ V6 เทอร์โบคู่ ที่มีจุดเด่นในเรื่องระบบแรงดันเสริมท่อสำหรับนำอากาศของชุดเทอร์โบ (boost pressure) ส่งผลให้สามารถเพิ่มแรงม้าและแรงบิดของเครื่องยนต์รุ่นนี้ได้

·         GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic ราคา 3,990,000 บาท

·         GLC 250 d 4MATIC Coupé AMG Plus ราคา 3,990,000 บาท

·         Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupé ราคา 5,790,000 บาท

Comments

comments