web analytics

ติดต่อเรา

มารู้จักกับ มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ รุ่นปี 2017 ! ให้มากขึ้น

การออกแบบภายนอก : เท่ห์ ดุดัน ในแบบไม่เหมือนใคร

New Triton MY17 Pyreness Black            New Triton MY17 Back

  • กระจังหน้าโครเมียมรมดำสไตล์สปอร์ต มาพร้อมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ Bi-XENON HID สไตล์โฉบเฉี่ยว พร้อมปุ่มปรับระดับไฟหน้า 5 ระดับ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (LED Daytime Running Light) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น พร้อมไฟตัดหมอกหน้าสไตล์สปอร์ต (เฉพาะรุ่น GLS -LTD)
  • บันไดข้างดีไซน์ใหม่ ขนาดยาวกว่าเดิมถึง 34 เซนติเมตร
  • การออกแบบมุมมองด้านข้างเน้นความเป็นหนึ่งเดียวของห้องโดยสารกับกระบะบรรทุกให้ความรู้สึกถึงการขับเคลื่อนไปข้างหน้า
  • เสริมการออกแบบเส้นสาย Character Line ด้านข้างตัวรถช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและอารมณ์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น
  • กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
  • การออกแบบด้านหลังมีความโค้งมนทันสมัย ชุดไฟท้ายมาพร้อมการออกแบบสไตล์รถเก๋งให้ทอดยาวไปจนถึงด้านข้างของกระบะ พร้อมการซีลขึ้นรูปชิ้นเดียวเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละอองเข้าโคมไฟ
  • กันชนหลังดีไซน์ทันสมัยลงตัว ที่สามารถเป็นบันไดและเป็นกันชนได้ในชิ้นเดียวกัน (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และเมกกะแค็บรุ่น GLX เครื่องยนต์ดีเซล)
  • ไฟเบรกดวงที่ 3 บริเวณฝาท้ายกระบะช่วยให้รถที่ตามหลังเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มาพร้อมการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำสุดเพียง 0.42 จากการออกแบบกันชนหน้า หลังคาให้โค้งมน พร้อมการออกแบบเสาเอ (A-pillars) ห้องโดยสารและกระบะให้เรียวไปยังส่วนท้าย ซึ่งนอกจากจะทำให้รถลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์แล้ว ยังช่วยให้รถทรงตัวเยี่ยมที่ความเร็วสูง พร้อมการประหยัดน้ำมันและให้มลพิษต่ำ
  • มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มี 6 สีให้เลือก(1) สีเขียว (Earth Green)

    (2) สีเงิน (Sterling Silver)

    (3) สีขาวมุก ( White Pearl)

    (4) สีเทา (Titanium Gray)

    (5) สีดำ (Pyreness Black)

    (6) สีขาว (Solid White)

การออกแบบภายใน : เชื่อมั่น….ในความเหนือระดับภายในห้องโดยสารและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

Triton MY17           ภายในรถ

  • มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มาพร้อมการพัฒนาการตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยการผสมผสาน ระหว่างสีดำแบบ Piano Black กับการตกแต่งแบบ ซิลเวอร์ เดคคอเรชั่น ที่บริเวณคอนโซลหน้า ฐานเกียร์ แผงสวิตช์ควบคุมหน้าต่าง และสวิตช์การปรับโหมดขับขี่
  • พร้อมมาตรวัดแบบ Combination meter ที่ตกแต่งในสไตล์สปอร์ต สามารถปรับแสงสว่างหน้าปัดได้ 8 ระดับ ดูง่ายชัดเจน พร้อมจอแสดงผลข้อมูลเอนกประสงค์ (Multi-information display) แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งความเร็วเฉลี่ยในการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง และระบบเตือนการบำรุงรักษา รวมไปถึงการเตือนต่าง ๆ เมื่อมีความผิดปกติของระบบต่าง ๆ
  • ที่นั่งตอนหลังพร้อมพนักพิงศีรษะ 3 ตำแหน่ง (Rear Seat Headrest X3) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารด้านหลังรู้สึกสะดวกสบายในการโดยสารมากขึ้น
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 4 ก้านหุ้มหนังที่สามารถแบบปรับระดับได้ 4 ทิศทาง โดยสามารถปรับขึ้น-ลง ดึงเข้า-ออกได้
  •  ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) เพื่อความสนุกในการขับขี่และควบคุมที่ดียิ่งขึ้น (เฉพาะรุ่น GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • ระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย (เฉพาะรุ่น GLS-LTD และเมกะแค็บรุ่น GLX เครื่องยนต์ดีเซล)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) เฉพาะรุ่น GLS-LTD AT
  • ช่องจ่ายกระแสไฟ 12 โวลต์ 2 จุด บริเวณคอลโซลหน้าและในช่องเก็บของบริเวณคอลโซลกลาง
  • โดดเด่นด้วยความสะดวกสบายเหนือระดับด้วยห้องโดยสารที่เงียบ
  • เครื่องเสียง 2 DIN วิทยุ ดีวีดี ซีดี MP3 พร้อมจอภาพระบบสัมผัสและระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) (เฉพาะรุ่น GLS-LTD)
  • ระบบนำทางในรถยนต์ (Navigation System) ที่ล้ำสมัย (เฉพาะรุ่น GLS-LTD ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • เบาะหนัง พวงมาลัยและหัวเกียรหุ้มหนัง (เฉพาะรุ่น GLS-LTD)

สมรรถนะที่โดดเด่น: แรงจัด ประหยัดสุด

มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 แบบ โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ใหม่ MIVEC คลีน ดีเซล เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 2.4 ลิตร 181 แรงม้า ครั้งแรกในรถกระบะกับนวัตกรรมเครื่องยนต์ดีเซลที่มาพร้อมเสื้อสูบและฝาสูบ อลูมินัม อัลลอย บล็อก พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC แรงจัดเต็ม ขุมพลัง ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม 20%

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 4N15 MIVEC คลีน ดีเซล ขนาด 2.4ลิตร

  • เครื่องยนต์ใหม่ รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว MIVEC เทอร์โบ แปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ 2,442 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมันมากขึ้นถึง 20% และลดมลพิษลงได้ถึง 17% พร้อมการทำงานของเครื่องยนต์ที่เงียบขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา โดยมีองค์ประกอบหลักดังนี้

– อลูมินัม อัลลอย บล็อก (Aluminum Alloy Block) ที่น้ำหนักเบา ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีการลดน้ำหนัก ช่วยให้สามารถลดน้ำหนักของเครื่องยนต์โดยรวมได้ถึง 35 กิโลกรัม แต่ยังคงความแข็งแกร่งและทนทาน ระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิง

นอกจากนี้การใช้กระบอกสูบแบบเหล็กกล้า (Steel Cylinder Liner) และการติดตั้งโซ่ไทม์มิ่ง จะให้ความทนทาน ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายเรื่องการบำรุงรักษาได้เป็นอย่างดี

– เทอร์โบ แปรผัน (VG Turbo) ให้การทำงานของเครื่องยนต์มีกำลังสูงทั้งในรอบต่ำ รอบกลางและรอบสูงอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองการขับขี่ได้ทันใจในทุกรอบความเร็ว

– ครั้งแรกในรถกระบะกับการติดตั้งระบบ MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control System) ลิขสิทธ์เฉพาะมิตซูบิชิ กับระบบควบคุมการปิด-เปิดวาล์วไอดี แบบแปรผันที่ทำงานสอดคล้องกับความเร็วของเครื่องยนต์ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ และได้แรงม้ามากยิ่งขึ้นในรอบสูงให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งดีเยี่ยม เผาไหม้หมดจด ลดมลพิษ

เครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4D56 ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์

  • มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร ดีเซล เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ให้สมรรถนะสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-3,500 รอบ/นาที

เครื่องยนต์เบนซินรหัส 4G64 ขนาด 2.4 ลิตร

  • สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร มาพร้อมระบบควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ ECI ที่ควบคุมจ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอีเล็กทรอนิกส์ แรงม้าสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

ระบบขับเคลื่อน SS4-II (Super Select 4WD II All Wheel Control)

มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บรุ่น GLS-LTD ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ มาพร้อมระบบ Super Select 4WD II ที่ได้รวมระบบขับเคลื่อน 4WD แบบ Part time และ Full Time เข้าด้วยกัน ให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time All Wheel Control เพื่อให้รถ ทรงตัวได้ดีขึ้น

มั่นใจในการขับขี่บนถนนทางเรียบลื่น และสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc เมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบออฟโรดง่ายขึ้นด้วยการเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่มีใน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ พร้อมระบบเฟืองท้ายแบบ Diff-Lock ระบบล็อกเพลาหลังที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้สามารถขับเคลื่อนรถผ่านเส้นทางออฟโรดได้ง่ายดายขึ้น

เชื่อมั่น…ในมาตรฐานความปลอดภัยระดับพรีเมียม

ช่วงล่างที่สมบูรณ์แบบ

  • มิตซูบิชิ “ไทรทัน ใหม่” ทุกรุ่นมาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE Body พร้อมการออกแบบโครงสร้างส่วนหน้าให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ติดตั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย) พร้อมเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง (2-way pretensioner) (เฉพาะดับเบิ้ลแค็บรุ่น GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)นอกจากนี้ยังเพิ่มเข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง รวมทั้งจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX 2 ตำแหน่ง ที่เบาะนั่งแถวที่ 2 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการโดยสารมากขึ้น ตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด 5-Star ASEAN NCAP
  • กล้องมองภาพหลัง เพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นขณะถอยจอด (มีใน GLS-LTD ทุกรุ่น)
  • ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ (ESS-Emergency Stop Signal System)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASTC (Active Stability & Traction Control) ซึ่งประสานการทำงานของระบบ ASC ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวในสภาวะที่รถเสียสมดุลเพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง และ ATC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถลช่วยควบคุมการหมุนของล้อทั้ง 4 อย่างสมดุล (เฉพาะรุ่น GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) เพื่อป้องกันการลื่นไหลในกรณีที่ต้องเบรกรถบนทางชันและต้องออกตัวอีกครั้ง (เฉพาะรุ่น GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake-Assist) ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกเมื่อเหยียบเบรกกะทันหันช่วยให้การหยุดรถเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น (เฉพาะรุ่น GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)

ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยตามแบบฉบับของมิตซูบิชิ ETACS (Electronic Time and Alarm Control System)

  • ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อรถมีความเร็ว (Auto Door Lock by Speed Sensing) เมื่อรถมีความเร็ว 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • ระบบตัดการทำงานของไฟหน้ารถโดยอัตโนมัติ โดยไฟหน้ารถจะดับเองอัตโนมัติ หลังจากดับเครื่องยนต์ แล้วเปิดประตู ช่วยประหยัดไฟในแบตเตอรี่
  • ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ ในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับเปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดหยุดเมื่อรถใช้ความเร็วเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 ให้โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดหยุดเหมือนเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม
  • สัญญานเตือนลืมปิดไฟหรี่หน้า ในกรณีที่ผู้ขับขี่ลืมปิดไฟหรี่หน้าหลังจากดับเครื่องแล้วเปิดประตูจะมีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น
  • ระบบล็อคเซ็นทรัลล็อกสามารถเปิดหรือปิดล็อกประตูทุกบานด้วยปุ่มควบคุมที่ประตูด้านคนขับ
  • ระบบสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลนเพียงขยับก้านไฟเลี้ยวเพียงเล็กน้อยสัญญาณไฟเลี้ยวและสัญญาณไฟเตือนในหน้าปัดจะกระพริบ 3 ครั้ง
  • กุญแจรีโมทพร้อมระบบควบคุมการพับและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสียหายจากการจอดรถในที่แคบ
  • ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสาร เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบสัมภาระภายในรถ
  • ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าหลังจากดับเครื่องยนต์กระจกไฟฟ้า จะยังสามารถเปิด-ปิดได้ต่อไปอีก 30 วินาที
  • สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท โดยไฟกระพริบเตือนจะแสดงบนหน้าปัดเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูรถปิดไม่สนิท

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *