สายการบินเอทิฮัด ลงนามความร่วมมือกับ ไอบีเอ็ม
สายการบินเอทิฮัดและไอบีเอ็ม (NYSE: IBM) ได้ประกาศการลงนามในข้อตกลงการให้บริการด้านเทคโนโลยีเป็นระยะเวลา 10 ปีซึ่งมีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.45 หมื่นล้านบาท เพื่อเป็นการยกระดับประสบการณ์การเดินทางแก่ผู้โดยสาร พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและความปลอดภัยระดับโลก พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น
ข้อตกลงที่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้คือหนึ่งในความร่วมมือเชิงกลยุทธ์หลักที่สำคัญที่สุดของสายการบินเอทิฮัด ซึ่งสายการบินฯ บริษัทในกลุ่มและพันธมิตรหุ้นส่วนจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและการบริการบนระบบคลาวด์ใหม่ล่าสุด ทั้งนี้สายการบินเอทิฮัดซึ่งเป็นหนึ่งในสายการบินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ได้ให้บริการขนส่งผู้โดยสารถึง 14.8 ล้านคนในปี 2557 โดยบริการเที่ยวบินใน 113 เมืองจุดหมายปลายทางทางการเดินทางและการขนส่งสินค้า
ไอบีเอ็มจะมอบหลากหลายบริการด้านเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้สายการบินเอทิฮัดและพันธมิตรพร้อมเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศสู่แพลตฟอร์มคลาวด์ระดับโลก ที่มีความยืดหยุ่นและรวดเร็วในการบริการลูกค้าและพนักงานที่ดียิ่งขึ้น
ข้อตกลงประกอบด้วยแผนงานการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ระบบคลาวด์ใหม่ในกรุงอาบู ดาบี ที่จะกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยมีไอบีเอ็มทำหน้าที่ดำเนินการพัฒนาและปฏิบัติการ
“การลงนามครั้งนี้ถือว่าเป็นความร่วมมือทางกลยุทธ์ระยะยาวซึ่งจะทำให้สายการบินเอทิฮัดและพันธมิตรสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอันล้ำสมัยล่าสุดควบคู่ไปกับการให้บริการระดับรางวัลของเรา ความร่วมมืออันโดดเด่นสำหรับสายการบินเอทิฮัด พันธมิตร พนักงาน และกรุงอาบู ดาบีนี้จะสร้างประโยชน์และการเปลี่ยนแปลงในวงการการบิน” มร.เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานบริหารของสายการบินเอทิฮัด กล่าว
ไอบีเอ็มได้รับการคัดเลือกด้วยปัจจัยหลายประการอาทิเช่น การให้บริการที่ครอบคลุมทั่วโลก ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ และแนวทางเทคโนโลยีที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับสายการบินเอทิฮัดทั้งในด้านกลยุทธ์แห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ที่ริเริ่มการดำเนินการด้วยระบบคลาวด์เป็นหลักเพื่อระบบเทคโนโลยีที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น ในขณะที่สามารถลดต้นทุนในการปฏิบัติงานได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ระบบคลาวด์ การวิเคราะห์ข้อมูล ระบบการใช้งานเคลื่อนที่ ระบบความปลอดภัย และคอกนิทีฟ เทคโนโลยี จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้การดำเนินงานของธุรกิจต่างๆของสายการบินเอทิฮัดและพันธมิตรของสายการบินฯมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
ด้วยโซลูชั่นระบบการใช้งานเคลื่อนที่ของไอบีเอ็มที่ได้รับการพัฒนาภายใต้ความร่วมมือระหว่าง แอปเปิ้ล-ไอบีเอ็ม (Apple-IBM) ทำให้สายการบินฯ สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการใช้งานแบบเคลื่อนที่ให้แก่พนักงานและลูกค้า ส่วนโซลูชั่นอื่นๆได้เข้ามาช่วยให้การปฏิบัติงานในท่าอากาศยานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นซึ่งส่งผลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การเดินทางที่ประทับใจตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงที่หมาย และภายใต้ข้อตกลงนี้สายการบินเอทิฮัดและพันธมิตรหุ้นส่วนสามารถเข้าถึงและใช้งานคอกนิทีฟ เทคโนโลยีของไอบีเอ็ม วัตสัน (IBM’s Watson cognitive technology)
สายการบินเอทิฮัดและไอบีเอ็มจะร่วมกันก่อตั้งคณะกรรมการเทคโนโลยีและนวัตกรรมในกรุงอาบู ดาบีเพื่อพัฒนาโซลูชั่นที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับการท่องเที่ยว โดยใช้ความสามารถในการวิจัยระดับโลกของไอบีเอ็มและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบินของสายการบินฯ คณะกรรมการจะมุ่งเน้นในการสร้างสรรค์คุณค่าประสบการณ์ให้กับสายการบินเอทิฮัดและผู้โดยสาร รวมทั้งนำเทคโนโลยีแห่งนวัตกรรม และประโยชน์ต่างๆมาให้แก่กรุงอาบู ดาบี และพลเมือง
มร.โรเบิร์ต เว็บบ์ ประธานฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า “ข้อตกลงฉบับสำคัญนี้มีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญพื้นฐานของกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของเราที่จะทำให้การใช้งานบนแพลตฟอร์มเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลกของสายการบินเอทิฮัดและสายการบินที่เป็นพันธมิตรหุ้นส่วนต่างๆ มีความปลอดภัย ยืดหยุ่น รวดเร็ว และพร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆได้ในอนาคต”
“เราเลือกไอบีเอ็มเป็นพันธมิตรเชิงเทคโนโลยีระดับโลก เนื่องจากความเชื่อมั่นที่ไอบีเอ็มมีต่อพนักงาน และประสบการณ์ในการปรับโฉมระบบ และการเป็นบริษัทแถวหน้าพร้อมทั้งนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมการบิน เรามั่นใจว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะเพิ่มประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้า และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่สายการบินเพื่อการแข่งขันภายในอุตสาหกรรมการบิน”
“การที่ไอบีเอ็มได้เข้ามาเป็นพันธมิตรในการแปลงโฉมระบบครั้งนี้ ทำให้สายการบินเอทิฮัดพร้อมเร่งเครื่องเดินหน้าสู่การใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่างการประมวลผลและองค์ความรู้ในระบบคลาวด์ ซึ่งช่วยให้การดำเนินงานของสายการบินฯมีประสิทธิภาพมากขึ้นและประสบความสำเร็จในการเป็นกลุ่มทางการบินร่วมระดับโลกตามแผนการสร้างการเติบโตทางธุรกิจ” มร. มาร์ติน เจทเทอร์ รองประธานอาวุโส ไอบีเอ็ม โกลบอล เทคโนโลยี เซอร์วิสเซส (IBM Global Technology Services) กล่าว
ทั้งนี้ ดาต้าเซ็นเตอร์ โครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศ แอพพลิเคชันส์ และการปฏิบัติการด้านความปลอดภัยของสายการบินเอทิฮัดจะถูกย้ายไปสู่ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ในกรุงอาบู ดาบี และการบริหารการกู้ข้อมูลคืนในกรณีเกิดความเสียหายจากภัยพิบัติจะถูกดำเนินการโดยดาต้าเซ็นเตอร์ของไอบีเอ็มในทวีปยุโรป ซึ่งแนวทางนี้ทำให้สายการบินฯสามารถประมาณการและบริหารทรัพยากรเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเพื่อเสริมสร้างความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ
ตามข้อตกลงดังกล่าวนี้ พนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศของสายการบินเอทิฮัดจะย้ายไปร่วมงานกับไอบีเอ็ม เพื่อการเข้าถึงโอกาสทางการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยไอบีเอ็มจะบริหารการปฏิบัติการทั้งหมดของดาต้าเซ็นเตอร์ให้สายการบินเอทิฮัด รวมถึงการบริการโครงสร้างพื้นฐานแต่ละอัน และศูนย์บริการความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
การร่วมมือในครั้งนี้เป็นการจัดเตรียมขอบข่ายงานเพื่อการบริการทางด้านเทคโนโลยีสำหรับสายการบินเอทิฮัดและสายการบินพันธมิตร รวมทั้งสายการบินอลิตาเลีย สายการบินแอร์เบอร์ลิน สายการบินเจ็ท แอร์เวย์ส สายการบินแอร์เซอร์เบีย สายการบินแอร์เซเชลส์ และสายการบิน เอทิฮัด รีเจียนนอล
