เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ขยับขึ้นท็อป 50 บริษัทยักษ์ใหญ่โลก !

บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโต้โมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้รับการจัดอันดับล่าสุดจากนิตยสารฟอร์จูนประจำปี 2559 ให้เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับที่ 46 จากทั้งหมด 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยทางนิตยสารฯ ได้ทำการทำการสำรวจและพิจารณาจากผลประกอบการในปี 2558 และเปรียบเทียบกับตัวเลขของปี 2557 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทางบริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโต้โมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมทุนกับบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) เพื่อการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ “เอ็มจี” ในประเทศไทยภายใต้ชื่อ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังประกาศเดินหน้าพัฒนาโครงการด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อการคิดค้นผลิตภัณฑ์ด้านนวัตกรรมใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับการกระบวนผลิตที่ดีมีคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และขยายธุรกิจในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทั่วโลก

บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโต้โมทีฟ อินดัสทรี คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งยังเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ดังระดับโลก อาทิ เอ็มจี, โรวี, แม็คซัส, โฟล์คสวาเกน, เชฟโรเลต, บิวอิค และคาดิลแลค โดยจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหุ้นแบบ A Share มากที่สุดในประเทศจีน  บริษัทฯ มีธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนอะไหล่และธุรกิจรถยนต์ ตลอดจนธุรกิจโรงงานผลิตและการประกอบ ธุรกิจการจัดจำหน่ายและเครือข่ายธุรกิจการขนส่ง  ธุรกิจการรวบรวมและจัดสรรข้อมูล ธุรกิจรถยนต์มือสอง ธุรกิจการให้บริการสินเชื่อ และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์แบบครบวงจร

โดยในครึ่งปีแรกของปี 2559 นี้ทาง เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น มียอดจำหน่ายรถยนต์รวมทุกรุ่น ทุกแบรนด์ (รวมทั้งรถยนต์ที่มีการร่วมทุนผลิตในประเทศจีนอย่างโฟล์คสวาเกนและเจนเนอรัล มอเตอร์ส) มากกว่า 3 ล้านคัน ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ พร้อมทั้งยังถูกจัดอันดับให้อยู่ในทำเนียบ 500 บริษัทชั้นนำของโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 12 แล้วจากนิตยสารฟอร์จูน

ทั้งนี้ เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น มีผลประกอบการรวมทั่วโลกในปี 2558 อยู่ที่ 106,684.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ทะยานติดท็อป 50 เป็นครั้งแรก โดยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 46 ซึ่งขยับขึ้นจากอันดับที่ 60 เดิมในปีที่แล้วจากการจัดอันดับล่าสุดของนิตยสารฟอร์จูน ซึ่งการพัฒนาดังกล่าว ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจที่เน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมยานยนต์ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการขยายและการเติบโตทางธุรกิจให้มั่นคงอย่างต่อเนื่อง

โดยหนึ่งในนวัตกรรมด้านยานยนต์ใหม่ล่าสุดของ เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้แก่ การพัฒนารถยนต์อัจฉริยะที่สามารถควบคุมผ่านระบบอินเตอร์เน็ตรุ่นแรกของโลกภายใต้ชื่อ NEW Roewe RX5 ซึ่งรถยนต์รุ่นดังกล่าวเกิดขึ้นจากการพัฒนาเทคโนโลยีการสั่งการ ร่วมกันกับบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการ อี-คอมเมิร์ซ ของประเทศจีนในนาม “อาลีบาบา”

NEW Roewe RX5 เป็นรถอเนกประสงค์ (SUV) ขนาดคอมแพ็ค ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเริ่มจำหน่ายแล้วในประเทศจีน ถือเป็นรถยนต์อัจฉริยะรุ่นแรกของโลกที่สามารถสั่งการผ่านระบบอินเตอร์เน็ตด้วยระบบปฏิบัติการของอาลีบาบา ที่มีชื่อเรียกว่า YunOS ซึ่งมีฟังก์ชั่นพิเศษมากมายเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ และยังสามารถแชร์ข้อมูลและเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ผ่านระบบปฏิบัติการคลาวด์ จึงส่งผลให้ NEW Roewe RX5 เป็นรถยนต์ที่สามารถสั่งการด้วยระบบเสียง (Voice Command) โดยมีความสามารถตั้งแต่การเปิด-ปิดฟังก์ชั่นการใช้งานภายในรถอย่างระบบปรับอากาศ การสตาร์ทรถ และควบคุมระบบความบันเทิง ตลอดจนความสามารถในการแนะนำและค้นหาเส้นทางแบบเรียลไทม์ และยังสามารถทำธุรกรรมและค้นหาข้อมูลผ่านระบบอินเตอร์เน็ตและระบบอี-คอมเมิร์ซต่าง ๆ (Internet Life Platform) ได้อีกด้วย ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก เพื่อการก้าวเข้าสู่ยุคแห่งโลกอินเตอร์เน็ต (Internet of Things) อย่างแท้จริง

นอกจากการพัฒนาเทคโนโลยีด้านยนตรกรรมของรถยนต์ทุกรุ่นที่อยู่ภายใต้การดูแลของเอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ให้มีคุณภาพและสมรรถนะสูงสุดแล้ว ทางบริษัทฯ ยังได้ศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในตลาดต่างๆทั่วโลกอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ยังได้เล็งเห็นแนวโน้มของตลาด ตลอดจนความต้องการของลูกค้า และทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต จึงมุ่งเน้นการสร้างความแตกต่างในผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีเป็นหลัก

Comments

comments