web analytics

ติดต่อเรา

“เสน่ห์จันทน์” ร้อยเรื่องราว…ต้นตำรับแห่งสำรับไทย

หมี่กรอบกุ้งแม่น้ำ (2)“สยามสินธร” เปิดร้านอาหารต้นตำรับไทย “เสน่ห์จันทน์” นำข้าวปลาอาหารไทยแท้มาให้ลิ้มรสความอร่อย พร้อมบรรจงผสานรสชาติและความงามเข้าด้วยกัน เป็นทั้งอาหารตาและอาหารใจมามอบให้ ณ ใจกลางเมืองบริเวณ Glasshouse@Sindhorn อาคารสินธร ถนนวิทยุ

คำว่า “เสน่ห์จันทน์” เป็นคําสิริมงคล เพราะเป็นชื่อขนมไทยดั้งเดิมที่ใช้ในงานมงคล บริษัท สยามสินธร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยมี ชลาลักษณ์ บุนนาค ดำรงตำแหน่ง กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จึงเลือกมาเป็นชื่อร้าน เพื่อคงคุณค่าความเป็นอาหารไทยรสแท้ แล้วบรรจงเนรมิตบรรยากาศแบบไทยร่วมสมัยที่หรูหรา ภายในประดับตกแต่งด้วยงานศิลป์ สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และเพิ่มความสุนทรีย์ด้วยบทกวีที่รจนาโดย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์และกวีซีไรต์ ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ ตั้งแต่เมนูอาหาร ไปจนถึงเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ได้นำภาพลักษณ์เครื่องปรุงไทยๆ อย่าง กระเพรา โหระพา ดอกกระเทียม มะเขือ พริก ผักชี ตำลึง กระเจี๊ยบ มาเรียงร้อยเป็นลวดลายสวยงาม

“เสน่ห์จันทน์” คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศมาปรุงอย่างพิถีพิถันในทุกกระบวนการการทำอาหาร คิดค้นพัฒนาบางตำรับ ให้เพิ่มรสสัมผัสลิ้น โดยไม่ทิ้งความเป็นไทยดั้งเดิม ทุกจานของ “เสน่ห์จันทน์” จึงมีเรื่องราวให้ค้นหา และมีให้เลือกลิ้มลองอย่างหลากหลาย…. เริ่มต้นจาก ผัดพริกขิง เมนูที่ดูเหมือนธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา ด้วยผัดพริกขิงของ“เสน่ห์จันทน์” จะใส่ปลาดุกทอดกรอบหรือหมูกรอบ ซึ่งเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม โดยระยะแรกนี้เป็นหมูกรอบผัดกับเครื่องแกงตำใหม่ ๆ ปรุงรสให้เค็มนำหวานสักหน่อยแต่งหน้าด้วยไข่แดงของไข่เค็มซึ่งช่วยเพิ่มทั้งสีสวยและรสเค็มมันของไข่ โรยหน้าด้วยใบมะกรูดซอยเป็นฝอย กลิ่นหอมของมะกรูดซอยนี้จะช่วยดับกลิ่นคาวได้ดี จากนั้นใส่ถั่วฝักยาวหรือถั่วพูเพื่อทำหน้าที่เหมือนผักแนมในเวลาที่เรารับประทานของรสจัด

ถัดมาเป็น แกงเขียวหวาน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นแกงเขียวและหวาน เครื่องแกงของเสน่ห์จันทน์ จะใส่ใบพริกที่ปลูกเองลงไปตำอย่างละเอียดทำให้สีสวยและมีกลิ่นหอม ส่วนพริกขี้หนูสวนในเครื่องแกงก็มีส่วนช่วยทั้งสีและความเผ็ดหอม รับรองว่าเห็นแล้วชวนหิว ในเรื่องความหวานนั้นเราแกงรสเค็มอมหวานคือให้รสเค็มนำและหวานตามห่าง ๆ แค่พอปะแล่ม ๆ รสหวานหลัก ๆ ได้จากหัวกะทิคั้นสดใหม่ ไก่ที่ใช้แกงก็เป็นไก่เลี้ยงตามธรรมชาติ มีเนื้อแน่นรับรสแกงได้ดี

มัสมั่น (2)

“มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง…” กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในรัชกาลที่ ๒ ทำให้ เมนู ”มัสมั่น” ต้องมีกลิ่นหอมของยี่หร่า “เสน่ห์จันทน์” คำนึงถึงความสำคัญของกลิ่นหอมรัญจวนของอาหารเป็นพิเศษตามตำรับโบราณ เครื่องแกงจึงมีทั้งยี่หร่าคั่วป่นและผงมาซาลาช่วยแต่งเติมความหอมของมัสมั่น เราเคี่ยวเนื้อกับพริกแกงจนเข้าน้ำเข้าเนื้อ ปรุงรสเค็มหวานซ่อนเปรี้ยว รสเปรี้ยวที่ซ่อนอยู่มีทั้งน้ำมะขามเปียกและน้ำสับปะรดจึงให้รสชาติที่เปรี้ยวหวานลงตัว

มาถึงเมนูเด็ด อย่าง “ทอดมันปลากราย” เพราะคุณสมบัติของปลากรายที่ไม่คาวจัดเหมือนเนื้อปลาขูดอื่น ๆ ทั้งยังนวดให้เหนียวง่าย จึงทำให้ทอดมันปลากรายมีรสชาติอร่อยกว่าปลาชนิดอื่น ยิ่งเมื่อนำมานวดผสมกับเครื่องแกงเผ็ด ใบมะกรูดซอย ถั่วพูซอย ปรุงรสให้กลมกล่อม กินแนมกับอาจาดสามรส จึงกลายเป็นเมนูที่รวมรสอาหารไทยคือเปรี้ยว หวาน เค็มและเผ็ด เสมือนเสมอกัน ซึ่งเป็นรสชาติที่หายากในเมนูอื่น ส่วนใหญ่จะมีรสใดรสหนึ่งนำแล้วมีรสอื่น ๆ ตาม ทอดมันปลากรายกับอาจาดจึงเป็นเมนูพิเศษที่เป็นจาตุรสเสมอกัน

วัตถุดิบหารับประทานยากในปัจจุบัน แต่สำหรับ เสน่ห์จันทน์ ล้วนใส่ใจและพิถีพิถันสรรหามาอย่างดี โดยเฉพาะ “ห่อหมกปลาช่อนนา” ที่ตำเครื่องแกงสูตรดั้งเดิม คัดสรรปลาช่อนนาที่หายากขึ้นทุกวัน กวนเครื่องห่อหมกในอ่างดินจนผิวของเนื้อปลาหลุดออกมาเป็นเม็ดใส ๆ ขนาดเท่าปลายเข็ม ซึ่งเนื้อปลานี้รวมกับไข่และกะทิจะช่วยให้ห่อหมกข้นตักใส่ใบตองห่อได้ ห่อหมกของร้านใส่กระทงเพื่อความสะดวกในการบริการแต่ตอนนึ่งห่อใบตองซ้อนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อช่วยให้ความร้อนระอุอยู่ตลอดเวลาและรักษาหน้าและเนื้อห่อหมกไม่ให้แห้ง

ปิดท้ายกับเมนูของหวานแสนคลาสสิค อย่าง “ข้าวเหนียวหน้าปลาแห้ง” ที่ทำจากปลาช่อนแห้งอย่างดี นำมาปิ้งจนหอม แล้วแกะเอาแต่เนื้อมาป่นให้ละเอียดและขึ้นฟู คั่วไฟอ่อน ๆ จนได้สีสวยกลิ่นหอม เมื่อกรอบแล้วจึงนำปลาคั่วมาคลุกกับน้ำตาลทรายและหัวหอมแดงของไทยที่ซอยชิ้นเสมอกัน จากนั้นนำไปเจียวให้เหลืองสวยและกรอบทุกชิ้น หน้าปลาช่อนแห้งที่มีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อยลิ้น เมื่อรับประทานกับข้าวเหนียวมูน หรือกับแตงโมก็อร่อยทั้งสองอย่าง ยิ่งถ้ารับประทานกับข้าวเหนียวมูน แนมกับมะม่วงอกร่องหอมหวาน รับรองยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ

ข้าวเม่ารางน้ำกระทิ (2)ส่วนอีกเมนูหารับประทานยาก คือ อาหารไทยดั้งเดิมแต่โบราณ “ข้าวเม่ารางน้ำกะทิ” ซึ่งใช้ข้าวเม่าอย่างดีจากกลุ่มชาวนาที่ จ. บุรีรัมย์ คั่วในกระทะด้วยไฟร้อนจัดเพื่อให้เม็ดข้าวเม่าพองอย่างรวดเร็ว ราไฟและคั่วจนมีกลิ่นหอมและสีสวย อบด้วยควันเทียนที่ควั่นจากขี้ผึ้งทำให้ได้กลิ่นหอมกรุ่นของควันเทียนแท้ ๆ ไม่มีกลิ่นฉุนของกำยานเจือปน รับประทานกับเผือกนึ่งและแคนตาลูป ซึ่งสามสหายนี้สามัคคีกันอร่อยในน้ำกะทิที่ทำจากกะทิสดหวานมัน ใส่น้ำตาลโตนดเพื่อความหวานหอมและน้ำตาลทรายนิดหน่อยเพื่อความหวานแหลม ความอร่อยหลากหลายของขนมถ้วยนี้จะตราตรึงใจไปอีกนาน

ลิ้มรสชาติความอร่อยแบบไทยแท้สูตรดั้งเดิมในบรรยากาศสุดประทับใจได้แล้ววันนี้ที่ร้าน “เสน่ห์จันทน์” ตั้งอยู่บริเวณ Glasshouse@Sindhorn อาคารสินธร ถ.วิทยุ เปิดให้บริการเวลา 17.00 – 22.00 น. หรือหากต้องการความเป็นส่วนตัวที่นี่มีห้องไว้รับรองถึง 3 ห้อง ได้แก่ ห้องจันทน์ปรุง ห้องจันทน์ปรางค์ และห้องจันทน์หอม นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ผ่อนคลาย “จันทน์จรุง” ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับลูกค้า ที่ต้องการดื่มด่ำกับไวน์ชั้นเลิศและเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่สร้างสรรค์สำหรับลูกค้า “เสน่ห์จันทน์” โดยเฉพาะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร. 0-2650-9880 หรือwww.facebook.com/glasshouseatsindhorn / www.sanehjaan.com

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *