web analytics

ติดต่อเรา

AIT โชว์ไตรมาส 3/58 ทำกำไรสุทธิ 118 ล้านบาท

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้นำในธุรกิจบริการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/58 (กรกฎาคม-กันยายน) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 118.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 96.3 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากงบการเงินเฉพาะกิจ การทำได้ 1,111 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/58 AIT ยังสามารถผลักดันอัตราส่วนกำไรสุทธิสูงขึ้นจาก 8.09% เป็น 10.7% ของรายได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ถึงแม้ผลการดำเนินงานจากงบการเงินเฉพาะกิจการงวด 9 เดือนแรกของปี 2558 (มกราคม-กันยายน) ที่มีรายได้ 3,700 ล้าน บาทและมีกำไรสุทธิ 407 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากงวด 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 5,535 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 592 ล้านบาท แต่อัตราส่วนการทำกำไรสูงขึ้นเป็น 11% จาก 10.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากขีดความสามารถของ AIT ในการบริหารต้นทุนโครงการและการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/58 จะเป็นจุดต่ำสุดของ AIT และจะเริ่มพลิกฟื้นเพื่อสร้างรายได้และกำไรให้กลับมาโดดเด่นได้อีกครั้งตั้งแต่ไตรมาส 4/58 เนื่องจากได้เตรียมทยอยส่งมอบงานและรับรู้รายได้ในไตรมาสสุดท้ายอีกหลายโครงการ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำผลการดำเนินงานให้เติบและเป็นไปตามเป้าหมาย 5 พันล้านบาทได้ตั้งไว้อย่างแน่นอน” นายศิริพงษ์ กล่าว
ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AIT กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมสารสนเทศและการสื่อสารในระยะเวลาที่เหลือของปีคาดว่าจะเริ่มคึกคักมากขึ้น หลังภาครัฐมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านต่างๆ ซึ่งน่าจะเห็นผลชัดเจนขึ้นในช่วงกลางปี 2558 จึงเป็นโอกาสของ AIT ที่มีศักยภาพและความพร้อมที่จะเข้าไปรับงานเพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือ (Backlog) จาก ณ สิ้น ไตรมาส 3/58 มีประมาณ 2,600 ล้านบาทให้เพิ่มขึ้น โดยหลายโครงการจะส่งมอบงานและทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ และบางส่วนจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2559

ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังดำเนินการตามแผนสร้างความมั่นคงทางด้านรายได้จากการลงทุนโครงการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแผนการขยายธุรกิจสู่ Data Center เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงและสามารถต่อยอดสู่การให้บริการ Cloud Service ที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจได้ดีและช่วยลดความเสี่ยงในการพึ่งพางานประมูลจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจมากเกินไป

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *