web analytics

ติดต่อเรา

Mercedes-AMG Driving Experience 2018 กิจกรรมสุดพิเศษสำหรับการทดสอบรถทุกรุ่น

Mercedes-AMG Driving Experience 2018 ถือเป็นงานใหญ่มาก สำหรับกิจกรรมการทดสอบรถเพราะทาง เมอร์เซเดส เชิญนักข่าวร่วมทดสอบ 100 กว่าคน และได้ขนรถมาครบทุกรุ่นพร้อมทั้ง ตัวแรงในตระกูล เอเอ็มจี ทั้งหมด และร่วมเปิดตัวรุ่นใหม่ในตระกูล AMG อีก 3 รุ่น พระเอกของงานต้องยกให้ โรดสเตอร์ตระกูล AMG GT

กิจกรรม “Mercedes-AMG Driving Experience 2018” จะแบ่งผู้เข้ารับการอบรมออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามสี และแบ่งการทดสอบออกเป็น 4 สถานี พร้อมแบบฝึกหัดสุดท้าทายในการขับขี่แบบเต็มสนาม โดยผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับการฝึกสอนจากนักแข่งรถผู้มีประสบการณ์มากมายทั้งต่างชาติและนักแข่งชื่อดังในประเทศ จึงได้รับประสบการณ์จริงจากการฝึกทักษะแต่ละด้าน และได้รับทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากสมรรถนะอันยอดเยี่ยม เต็มไปด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมอันก้าวล้ำ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของแนวคิดในการผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีทุกรุ่น ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกทุกฐานแล้ว ผู้ขับขี่จะมีความเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากสมรรถนะ และเทคโนโลยีอันทันสมัยที่มาพร้อมกับตัวรถได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่านที่ผ่านการฝึกอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากทางบริษัท

อีกหนึ่งความพิเศษที่ทาง เบนซ์ ได้เตรียมมาให้กับสื่อมวลชน คือ การเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นยอดนิยมภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีและเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่าง

Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศ ที่มาพร้อมกับรูปโฉมใหม่ของตระกูลซี-คลาส และการยกระดับสมรรถนะ ด้วยการพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์ รวมถึงเพิ่มเติมความหรูหราและความสปอร์ตภายในห้องโดยสารให้โดดเด่นกว่าที่เคย ราคา 4,220,000 บาท

Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ รถยนต์ ตัวแรงที่สุดที่เคยมีมาในรถยนต์ตระกูล  E-Class ด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร 612 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที และด้วยราคาเปิดตัวที่หน้าสนใจพร้อมเทคโนโลยีที่จัดเต็มพร้อมราคาที่ดี ทำให้ค่ายคู่แข่งสะเทือนได้ ราคา 12,790,000 บาท

Mercedes-Benz C 200 Coupé AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ ยนตรกรรมสไตล์สปอร์ตคูเป้ เจนเนอเรชั่นล่าสุดในกลุ่ม Dream Car ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมรถยนต์รุ่นใหม่นี้ได้อย่างใกล้ชิด ณ ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ราคา 3,450,000 บาท 

สำหรับการทดสอบแต่ละสถานีเริ่มด้วย

สถานีที่ 1 “Brake and Swerve” เป็นการทดสอบระบบเบรก ระบบความปลอดภัยภายในรถยนต์ อันได้แก่ระบบ ESP และระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) และเป็นการทดสอบความเร็วใน การตอบสนองต่อสิ่งเร้าของตัวผู้ขับขี่เอง โดยผู้เข้าร่วมทดสอบจะได้ขับรถออกจากจุดเริ่มต้นด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. และเมื่อเห็นสัญญาณไฟกระพริบจากทางซ้ายหรือขวา ผู้เข้าร่วมทดสอบจะต้องเหยียบเบรก และหักเลี้ยวหลบสิ่งกีดขวางตามทิศทางของสัญญาณไฟนั้น สถานีนี้เป็นการฝึกสติในการขับขี่บนท้องถนน เมื่อเห็นสัญญาณหรือสิ่งกีดขวางเป็นการควบคุมรถให้อยู่ในทางหรือหยุดรถได้อย่างมั่นใจในสถานะการจำเป็น

สถานีที่ 2 “ESP  Exercise” เป็นการทดสอบโดยอิงจากสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้จริงในชีวิตประจำวัน ด้วยการเปรียบเทียบสิ่งกีดขวางเป็นคนเดินถนน ผู้ขับขี่จะได้ทดสอบทั้งการควบคุมการขับขี่ในสถานการณ์คับขันและทักษะการใช้สายตาเพื่อกะระยะทาง โดยผู้เข้าร่วมทดสอบจะได้ขับรถออกจากจุดเริ่มต้นด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. แล้วหักเลี้ยวหลบสิ่งกีดขวางที่อยู่   ด้านขวามือโดยไม่เหยียบเบรก และต้องควบคุมรถให้อยู่ในเส้นทางที่ต้องการจะไป โดยมองไปในทิศทางที่ต้องการบังคับรถ ซึ่งการควบคุมรถในลักษณะนี้ จะทำให้ระบบ ESP ทำงาน และ ลดความเร็วของรถยนต์ลง 30 กม./ชม. สถานีนี้จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานของระบบ  ESP ที่ดีของรถจะสามารถช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้ง่ายขึ้นลดอุบัติเหตุ ได้ในสถานการณ์จริง

สถานีที่ 3 “Motorkhana” เป็นสถานีที่จำลองมาจากกีฬามอเตอร์สปอร์ตชนิดหนึ่ง โดยสถานีนี้จะให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบได้ฝึกบังคับรถยนต์ในสนามจำลองเล็ก ๆ ที่มีอุปสรรคมากมายภายในเวลาที่รวดเร็วที่สุด และปลอดภัยที่สุด โดยไม่ชนสิ่งกีดขวางใด ๆ เลย สถานีนี้จะเป็นการฝึกการทดสอบรถในความเร็วภายใต้การควบคุมแสดงให้เห็นประสิทธิภาพของตัวรถ AMG ให้การตอบสนองได้ดีทั้งการออกตัว การควบคุมที่ง่าย ระบบเบรคที่ไว้ใจได้

สถานีที่ 4 “Cornering Theory” เป็นสถานีทดสอบการเข้าโค้ง ที่จะใช้พื้นที่โค้งภายในสนามทั้งหมด 4 โค้งด้วยกัน ซึ่งแต่ละโค้งจะมีความกว้างแตกต่างกันไป ทำให้ผู้ขับขี่ได้ทดสอบการควบคุมความเร็วของรถยนต์ได้อย่างเต็มที่ โดยในแต่จะโค้งจะมีสิ่งกีดขวางที่วางไว้เป็นเสมือนสัญลักษณ์ให้กับผู้เข้าร่วมการทดสอบได้ทราบถึงสิ่งที่ควรทำเมื่อเข้าโค้งนั้น ๆ เช่น จุดที่ต้องเบรก จุดที่ต้องหักเลี้ยว หรือจุดเอเป็กซึ่งเป็นจุดที่สามารถเดินคันเร่งส่งรถออกไปจากโค้งได้ปลอดภัย และรวดเร็วที่สุด สถานีสุดท้ายหลักๆเป็นการฝึกการใช้จุดเบรคในทางโค้ง การใช้คันเร่งในการออกตัวจากโค้ง รถยนต์ที่มีประสิทธิภาพที่ดีจะสามารถเข้าโค้งได้อย่างรวดเร็ว

สรุปสำหรับการทดสอบในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการทดสอบรถที่ใหญ่สุดทั้งจำนวนรถ จำนวนผู้เข้าร่วมทดสอบ และประสบการณ์ในการขับขี่ในสนามที่พึ่งจัดงานใหญ่ไปเมื่อไม่นานอย่าง Moto GP ยิ่งเพิ่มพลังในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น ในแต่ละสถานีจะเปลี่ยนสลับรถกันในกลุ่มเพื่อให้เห็นประสิทธิภาพของรถในแต่ละรุ่น ว่าระบบการทำงานเป็นอย่างไร อาการของรถแต่ละคันจะแตกต่างกัน ทำให้เห็นถึงการทำงานของระบบต่าง ๆ ว่าทำงานได้ดีเพียงใดเมื่อเกิดสถานะการที่ไม่คาดฝันจะแก้ไขได้อย่างไรและถ้าคุณมีรถที่ดีควบคุมได้ง่ายก็จะทำให้ชีวิตคุณปลอดภัยขึ้น และสำหรับพระเอกอย่าง AMG GT เสียดายที่ทางทีมงานไม่ได้รับการคัดเลือกในการขับ แต่อย่างไรเทคโนโลยี และประสิทธิภาพของรถที่สูงก็ทำให้เรามั่นใจในการขับขี่

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *