web analytics

ติดต่อเรา

ฮิตาชิฯ ทุ่มเงินลงทุน ขยายกำลังผลิต รุกตลาดอาเซียน

ฮิตาชิเอลลิเวเตอร์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิต จำหน่าย ติดตั้งและบริการบำรุงรักษาลิฟต์ บันไดเลื่อน และทางเลื่อน HITACHI เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เตรียมทุ่มเงินขยายกำลังการผลิต สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ กับสโลแกน Hitachi : Inspire the Next ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ตอบโจทย์ประเทศไทยยุค 4.0 กับการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และการขยายตัวระบบขนส่งมวลชน www.benewsonline.com สัมภาษณ์ นายไมเคิล ถัง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิเอลลิเวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

www.benewsonline.com – ปีที่ผ่านมา ภาพรวมของอุตสาหกรรมลิฟต์ และบันไดเลื่อนเป็นอย่างไร?

จากภาวะเศรษฐกิจระดับมหภาคที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างดีและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  รวมถึงโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของรัฐบาล เช่น โครงการขยายรถไฟฟ้า, โครงการพัฒนาท่าอากาศยาน ก็ส่งผลดีต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาทิ โครงการที่พักอาศัย โรงแรมและห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่โดยรอบอื่น ๆ ทำภาพรวมของอุตสาหกรรม ลิฟต์ และบันไดเลื่อนมีอยู่ประมาณ 5,400 ยูนิต หรือมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% ส่วนของบริษัทนั้นนับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยมีผลประกอบการเติบโต เพิ่มขึ้น 12%

www.benewsonline.com –ปีนี้ บริษัทวางทิศทางและนโยบายไว้อย่างไรบ้าง?

จากภาพรวมของบริษัทในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ มองเห็นการเติบโตของลิฟต์ฮิตาชีในอนาคต ด้วยความพร้อมในศักยภาพการผลิต การขาย และการบริการ ทำให้บริษัทฯ มีแผนที่จะก้าวสู่ศูนย์กลางการผลิต New Mass Products  โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังกลุ่มอาเซียน ได้แก่ เมียนมาร์ และกัมพูชา

ปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานผลิตลิฟต์ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร กม. 57 (เฟส 9) โดย มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2,500 ตัว โดยมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตอีก ตั้งเป้าว่าปีนี้จะสามารถทำยอดเพิ่มขึ้นถึง 1,100 ยูนิต 

www.benewsonline.com –ปีนี้จะมีสินค้าใหม่หรือไม่ ?

ปี 2560 บริษัทเปิดตัวสินค้าใหม่ TX series เป็นบันไดเลื่อนตัวใหม่ ที่มีนวัตกรรมทันสมัย และมีความปลอดภัยสูงสุด ส่วนปีนี้คาดว่ายังไม่มีสินค้ารุ่นใหม่ แต่จะขยายการผลิตของรุ่น  UAG-SN1 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2559 โดยเป็นสินค้าหลักที่ผลิตที่เมืองไทย  สำหรับตลาดไทย และส่งออกไปต่างประเทศ เพราะเป็น  global standard model UAG-SN1 เหมาะสมกับอาคาร low-mid rise และโครงการที่นิยม simple design ไม่ต้องตกแต่งอะไรมากอย่างเช่น คอนโดฯ หรือ หอพัก ฯลฯ ที่มีราคาไม่สูงมาก และมีคุณภาพสูงตามมาตรฐานญี่ปุ่น

www.benewsonline.com –สถานการณ์โดยรวมของตลาดปีนี้จะเป็นอย่างไร  ?

แนวโน้ม ในเมืองไทย  มีความต้องการลิฟต์และบันไดเลื่อน โดยจากภาพรวมของยอดขายในปี  2560 คาดว่า ปี 2561  โดยโดยรวมจะเพิ่มเป็นประมาณ 6,000 ยูนิต แบ่งเป็นโครงการในส่วนของภาครัฐ 40% และภาคเอกชน อยู่ที่ 60% ซึ่งมั่นใจว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น อาจเป็นผลจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ อย่างเช่น BTS และ MRT ทำให้ความต้องการของธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้าและโครงการก่อสร้างมีการเติบโตสูงมากโดยสัดส่วนการขายหลักอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นที่มาจากการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งทำให้การเติบโตของอาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย รวมไปถึง ศูนย์การค้าย่านชานเมืองที่เพิ่มมากขึ้น โดยอาคารประเภทที่อยู่อาศัยหลัก ๆ คือ คอนโดมิเนียมหรูหรา ราคาสูงอยู่ใจกลางเมือง และคอนโดที่มีความสูงไม่มากและราคาไม่สูงเกินไป นอกจากนี้ ยังมีทาวน์เฮาส์สไตล์หรูย่านชานเมืองสำหรับครอบครัวใหญ่, โครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อผู้สูงอายุ ซึ่งสาเหตุมาจากสังคมผู้สูงอายุที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมองว่าลูกค้าให้สนใจในระบบความปลอดภัยมากที่สุด

นอกจากนี้ เทรนด์ของการพัฒนาในปีนี้ ยังคงต่อยอดการพัฒนาด้านนวัตกรรมที่อยู่อาศัย และการพัฒนาในรูปแบบของ Mixed-use มากขึ้น โดยรวมอาคารสำนักงาน โรงแรม ที่อยู่อาศัย และห้างสรรพสินค้า รีเทลไว้ด้วยกันเกิดเป็นแม่เหล็กดึงดูดความเจริญในพื้นที่ได้อย่างดี และเริ่มยังให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุ ในปีนี้น่าจะมีการออกแบบ Elderly Care ที่ใส่ใจผู้สูงอายุในผลิตภัณฑ์กลุ่มอสังหาฯ มากขึ้น

www.benewsonline.com – โครงการขนาดใหญ่ที่บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามีอะไรบ้าง ?

ที่ผ่านมา “ฮิตาชิ” ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจากโครงการขนาดใหญ่ล่าสุด อาทิ Intercontinental Hotel Phuket, Suvarnabhumi Airport Expansion, Interlink Tower, Icon Siam, Rama 9 Hospital, The Market by Platinum, Pantip Plaza, Ngamwongwan, Siriraj Hospital, Ekamai Mall, V Condo Series และอื่น ๆ

www.benewsonline.com –ปัจจุบัน บริษัทมีศูนย์บริการกี่แห่ง และมีแผนที่จะขยายเพิ่มขึ้นหรือไม่ ?

ทางฮิตาชิเอง มั่นใจว่าสินค้าของเราสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการเป็นแบรนด์ของญี่ปุ่นที่ได้รับความเชื่อถือในเรื่องของชื่อเสียงและการดีไซน์แล้ว ยังมีโรงงานการผลิตตั้งอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งนอกจากการผลิตยังสามารถดูแลในเรื่องของอะไหล่ได้ทันที อีกทั้งยังมีพนักงานช่าง 250-500 คน ไว้คอยบริการ พร้อมศูนย์บริการ 15 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่, พิษณุโลก, ขอนแก่น, นครราชสีมา, พัทยาประจวบคีรีขันธ์, ระยอง, สงขลา ภูเก็ต และปีนี้จะเปิดศูนย์บริการใหม่ที่ จังหวัดอุดรธานี ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ มี 5 แห่ง คือ ปทุมวัน, เพชรบุรี, รามอินทรา, วิภาวดี และหนองแขม ซึ่งการบริการถือเป็นหัวใจหลักสำคัญในการแข่งขันในตลาด ดังนั้นการขยายศูนย์บริการเพิ่ม เป็นนโยบายที่ต้องการตอบโจทย์การบริการลูกค้าได้ทันเวลา ทันเหตุการณ์ สร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า พร้อมกันนี้ยังมีบริการพิเศษด้วยระบบ Call Center 0-2641-3030 และระบบบริการ Quick Team ตลอด 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ อีกด้วย

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *