เกาะติด ‘ค่ายเยาวชน AEC : KTIS แคมป์ 2016’
ระยะเวลา 3 วัน 2 คืน อาจจะไม่ได้ยาวนานเพียงพอที่จะสามารถทำความรู้จักกันได้อย่างลึกซึ้ง แต่ระยะเวลา 3 วัน 2 คืนที่ใช้ชีวิตร่วมกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน พูดคุยแบ่งปันกัน นั่นเพียงพอแล้วที่จะเป็น ‘จุดเริ่มต้น’ ในการสานต่อความสัมพันธ์ให้งอกงามสำหรับเยาวชนจำนวน 102 ชีวิต จาก 4 ชาติ ที่เข้าร่วมโครงการค่ายเยาวชนอาเซียน “AEC : ASEAN Excellent Camp” ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของกลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ‘เคทิส’ (KTIS) และมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ณ โรงแรมทรัพย์ไพรวัลย์ แกรนด์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดพิษณุโลก
ดร.ดารัตน์ ศิริวิริยะกุล วิภาตะกลัศ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา บอกว่า ค่าย AEC ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้น เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความรู้ความเข้าใจที่ดีร่วมกันในบทบาทหน้าที่การเป็นพลเมืองที่ดีของประชาคมอาเซียน ผ่านกระบวนการเรียนรู้ทางกิจกรรมที่สร้างขึ้นเฉพาะสำหรับค่ายครั้งนี้ โดยมุ่งหวังว่า เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมค่ายนี้ จะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนมากขึ้น อีกทั้งได้พัฒนาตนเองทั้งในด้านของบุคลิกภาพ การปรับตัวในการอยู่ร่วมกันในสังคม ภาวะผู้นำ การทำงานเป็นทีม การบริหารความขัดแย้ง การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรรมระหว่างชาติ การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และยังช่วยดูแลสังคมให้เข้าใจถึงพิษภัยของยาเสพติด รวมไปถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ก่อนเริ่มกิจกรรม เยาวชนทั้ง 102 คน ที่ได้รับการคัดเลือกจากลักษณะความเป็นผู้นำ กล้าแสดงออก และมีทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์ดี อายุตั้งแต่ 8 ขวบจนถึง 22 ปี จาก 4 ชาติ แบ่งเป็นเยาวชนไทย 41 คน เวียดนาม 40 คน ลาว 11 คน และกัมพูชา 10 คน ได้แบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลุ่ม ๆ ละประมาณ 20 คน คละเยาวชนชาย-หญิง คละประเทศ โดยแต่ละกลุ่มจะใช้สีเป็นสัญลักษณ์ ได้แก่ สีเขียว แดง เหลือง ม่วง และฟ้า
น่าแปลกที่แม้ไม่มีการชี้นำหรือจำกัดกรอบในการตั้งชื่อกลุ่ม แต่กลุ่มต่าง ๆ กลับเน้นไปที่การรวมความหลากหลายไว้เป็นหนึ่งเดียว อาทิเช่น กลุ่ม We Are One หรือกลุ่ม Golden Four ซึ่ง Four หมายถึงการรวมกันของ 4 ชาติ ได้แก่ ไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว ที่น่าสนใจกว่าความหลากหลายของเชื้อชาติ ภาษา และวัฒนธรรมแล้ว กลุ่มเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมยังมีความหลากหลาย ตั้งแต่เด็กน้อยวัยเยาว์ลูกหลานของชาวไร่อ้อย ที่ “เคทิส” จัดงบประมาณสนับสนุนให้เด็ก ๆ จำนวน 10 คน ได้มีโอกาสใช้ชีวิตร่วมกับพี่ ๆ และเพื่อน ๆ เพื่อเรียนรู้ที่จะรวมกันเป็นหนึ่ง
ขณะที่รูปแบบกิจกรรมของค่ายเยาวชน AEC : ASEAN Excellent Camp นั้น มีทั้งการบรรยายในห้อง ในหัวข้อต่าง ๆ อาทิเช่น “การรณรงค์ป้องกันและการต่อต้านยาเสพติด: กรณีศึกษาโครงการ To be number one” โดย ดร.กฤษณะ ดาราเรือง จากมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา และ “เสียงพิเศษจากช้าง” โดย อ.ประสพ ทิพย์ประเสริฐ ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรม โรงแรมทรัพย์ไพรวัลย์ แกรนด์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านช้าง รวมถึงการทำกิจกรรมฐาน ซึ่งมีทั้งหมด 5 ฐาน เน้นการวางแผน ความยืดหยุ่น การสื่อสาร ภาวะผู้นำ-ผู้ตาม ความสมัครสมานสามัคคี และความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ทั้งการบายศรีสู่ขวัญ การแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ และการแสดงของประเทศต่าง ๆ รวมถึงการทัศนศึกษาในสถานที่สำคัญของจังหวัดพิษณุโลก
เด็กหญิงนัทชาพร จันทขาว หรือ “น้องต้นข้าว” สาวน้อยวัย 8 ปี ซึ่งอายุน้อยที่สุดที่เข้าร่วมแคมป์ บอกว่า แม่ของเธอทำงานในบริษัท เอ็นไวรอนเม็นท์พัลพ์ แอนด์ เปเปอร์ จำกัด บริษัทในกลุ่มเคทิส อยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเมื่อรู้ว่า จะมีค่ายนี้เธอก็อยากเข้าร่วมกิจกรรมมาก ๆ
“ตอนแรก พี่ๆ บอกว่าอายุหนูยังไม่ถึง แต่พอได้คุยกับหนูแล้ว เขาเห็นว่าหนูมั่นใจว่าหนูสามารถร่วมกิจกรรมกับพวกพี่ ๆ ได้ เพราะหนูชอบทำกิจกรรม และกล้าแสดงออก พี่เขาก็ยอมให้หนูมาอยู่ในแคมป์” “ต้นข้าว” บอกด้วยว่า ตอนอยู่ที่โรงเรียน เธอเป็นรองหัวหน้าห้องเป็นนักแสดง ทั้งเต้นและรำ “หนูทำหมด หนูชอบ พอมาค่ายนี้ ก็ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ เวลาทำกิจกรรมกลุ่ม หนูอาจจะยังช่วยพี่ ๆ ไม่ได้มาก แต่หนูให้ความร่วมมือทุกอย่าง อยากให้หนูทำอะไร หนูทำได้หมด การได้มาเจอกับชาวต่างชาติอย่างเวียดนาม กัมพูชา และลาว ก็สนุกดี หนูมีเพื่อนใหม่จากลาว คุยกันรู้เรื่องมากกว่าอีก 2 ชาติค่ะ”
ส่วน นางสาวชิง หลิงหลิน จากประเทศกัมพูชา ผู้ที่ได้รับตำแหน่ง Superstar ของแคมป์นี้ บอกว่า เธอเรียนที่ Cambodian Mekong University เป็นคนชอบทำกิจกรรม เคยเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ประเทศญี่ปุ่น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาเข้าร่วมแคมป์ในประเทศไทย รู้สึกประทับใจมาก เพราะได้แสดงศักยภาพของตัวเองในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องภาวะผู้นำ การบริหารจัดการปัญหาในกลุ่ม เพราะเธอได้รับเลือกเป็นหัวหน้ากลุ่ม และไม่คิดว่าจะได้รับเลือกเป็นซูเปอร์สตาร์ รู้สึกดีใจมาก
“สิ่งที่หนูได้จากแคมป์นี้ อย่างแรกคือเพื่อน เราทั้ง 4 ชาติแม้จะคุยกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่พวกเราก็สนิทกัน ร่วมมือร่วมใจกันทำกิจกรรม จนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อย่างที่สองคือความรู้ที่ได้จากวิทยากรต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องช้าง น่าสนใจมาก เรารู้ว่าท่าทีของช้างแบบต่าง ๆ แสดงอารมณ์อะไร และถ้าเผชิญหน้าช้าง ทำยังไงจะไม่ให้ถูกทำร้าย อย่างที่สาม คือได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมกับเพื่อนจากต่างชาติ ต่างภาษา อีกทั้งได้มุมมองใหม่ ๆ จากเพื่อน ๆ และได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษอีกด้วย…โดยสรุปก็คือ ค่ายนี้ดีมาก ๆ ค่ะ ถ้าใครมีโอกาสจะได้มาร่วม ก็ขอเชียร์เต็มที่เลยค่ะ”
แน่นอนว่า เสียงสะท้อนจากเด็ก ๆ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ภาพการช่วยเหลือเกื้อกูล การเรียนรู้เพื่อแลกเปลี่ยนความหลากหลายระหว่างกัน นำมาซึ่งความอิ่มเอมให้กับ ดร.สายศิริ ศิริวิริยะกุล ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และการสื่อสารองค์กร กลุ่มเคทิส ผู้เป็นหนึ่งในหัวเรี่ยวหัวแรงของค่ายเยาวชนในครั้งนี้
“การที่เคทิสได้เข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมค่าย AEC ในครั้งนี้ เพราะเราเห็นว่า เป็นกิจกรรมที่ดี เป็นการช่วยเสริมสร้างความร่วมมือกันระหว่างกลุ่มเยาวชนในประเทศสมาชิกอาเซียน จากเด็กและเยาวชนที่มีวัยต่าง ๆ กัน มาจากหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายวัฒนธรรม แต่สามารถกิน อยู่นอนในค่ายนี้ด้วยกัน และทำกิจกรรมที่สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ต่อไปในอนาคต เป็นความตั้งใจของทีมงานทุกคนที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาตนเอง ก่อนจะช่วยกันพัฒนาชุมชน สังคม รวมไปถึงประเทศชาติ และเมื่อมาถึงตรงนี้ต้องบอกว่าทุกอย่างเกินกว่าความคาดหวังของเราไปมากจริง ๆ”
