นักบิด ยามาฮ่า ลงศึกชิงแชมป์เอเชีย
นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัทไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมแสดงความยินดีกับนักบิดสังกัดYamaha Thailand Racing Team ดีกรีแชมป์ประเทศไทย “อนุชา นาคเจริญศรี” ที่โชว์ฟอร์แกร่งหลังได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ด กระชากคันเร่งรถแข่งคู่ใจ YZF-R6 หมายเลข 14 ทะยานคว้าชัยอันดับ 2 รุ่น Supersports 600cc. เรซแรก ซึ่งเป็นผลงานที่ดีสุดของนักบิดไทยในศึกชิงแชมป์เอเชียรายการ Asia Road Racing Championship 2015 สนาม 6 ที่จัดขึ้น ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อเร็วๆ นี้
การแข่งขันชิงแชมป์เอเชียรายการ Asia Road Racing Championship 2015 สนามที่ 6 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของปี 2015 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 ธันวาคม 2558 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ที่ถือได้ว่าเป็นสนามโฮมเรซของนักบิดไทย โดยการชิงชัยในสนามสุดท้ายนี้ Yamaha Thailand Racing Team ได้ส่งทัพนักแข่งในสังกัดดีกรี “แชมป์ All Japan” และ “แชมป์ประเทศไทย” พร้อมด้วยนักบิดดาวรุ่งฝีมือแกร่งลงดวลความเร็วกับนักแข่งต่างชาติในฐานะเจ้าบ้านแบบเต็มพิกัดทั้งในรุ่น Supersports 600cc. และรุ่น Asia Production 250 cc. เพื่อประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ของทีมมอเตอร์สปอร์ตยามาฮ่าในระดับเอเชียอีกครั้ง
ประเดิมความมันส์รุ่นไฮไลท์ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียด้วยรุ่น Asia Production 250 cc. ซึ่งมีนักบิด Yamaha Thailand Racing Team ลงชิงชัยในสนามนี้ด้วยกัน 4 คนด้วยกัน นั่นคือ พีระพงศ์ บุญเลิศ และ พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง ที่ลงเก็บเกี่ยวประสบการณ์การแข่งขันแบบเต็มฤดูกาล และเสริมทัพความแข็งแกร่งด้วย อนุภาพ ซามูล และ รัฐพงษ์ บุญเลิศ ที่ได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดเข้าร่วมการแข่งขันในสนามนี้ โดยการชิงชัยในเรซแรกนั้น พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง เป็นนักแข่งของ Yamaha Thailand Racing Team ที่ทำเวลาดีที่สุดในรอบควอลิฟาย และได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 5 โดยเพื่อนร่วมทีมอย่าง อนุภาพ ซามูล, พีระพงศ์ บุญเลิศ และ รัฐพงษ์ บุญเลิศ นั้น ออกสตาร์ทจากกริดอันดับที่ 8, 11 และ 26 ตามลำดับ
โดยการแข่งขันในรุ่น Asia Production 250 cc. ลงทำการชิงชัยด้วยกันทั้งหมด 10 รอบสนาม ซึ่งสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต นี้มีระยะทางต่อรอบอยู่ที่ 4,554 เมตร และเป็นสนามที่นักแข่งสามารถใช้ความเร็วได้สูง ทำให้เกมการขับเคี่ยวในสนามเต็มไปด้วยความมันส์และเร้าใจ ซึ่งทันทีที่สัญญาณไฟแดงดับลงเกมการชิงชัยก็เริ่มต้นขึ้นฝูงรถแข่งทั้ง 34 ต่างก็พุ่งทะยานออกตัวไปแบบเต็มคันเร่งเพื่อเบียดแย่งตำแหน่งผู้นำกันตั้งแต่ต้นเกม โดย 3 นักแข่ง Yamaha Thailand Racing Team อย่าง พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง, พีระพงศ์ บุญเลิศ และ อนุภาพ ซามูล สามารถเกาะอยู่ในกลุ่มนำที่มีด้วยกันถึง 10 คันได้เมื่อผ่านรอบแรก จากนั้นเกมการแข่งขันก็เป็นไปอย่างสนุก และตื่นเต้นชนิดที่กองเชียร์ชาวไทยต่างก็ลุ้นให้นักแข่งไทยประสบความสำเร็จในเกมชิงชัยครั้งนี้
เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางของเกมการแข่งขัน อนุภาพ ซามูล ก็งัดฟอร์มเก่งขึ้นมาขับเคี่ยวกับคู่ต่อสู้ได้แบบสุดมันส์จนสามารถขยับขึ้นมารั้งอยู่ในอันดับ 2 ได้สำเร็จ โดยที่บางจังหวะก็สามารถทะยานขึ้นมาเป็นผู้นำได้ด้วย ส่วน พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง และ พีระพงศ์ บุญเลิศ นั้นก็ทำผลงานได้ดีเช่นกันโดยยังคงเกาะติดกลุ่มอยู่ในอันดับที่ 6 และ 7 ตามอันดับ จนกระทั้งเข้าสู่รอบสุดท้ายของการชิงชัย 3 นักแข่ง Yamaha Thailand Racing Team ที่โดนนักแข่งญี่ปุ่น และมาเลเซียรวมถึงนักแข่งไทยต่างทีมคอยบดเบียดอยู่ตลอดเวลาก็ยังสามารถต่อสู้กับคู่แข่งได้อย่างสูสี ก่อนที่ อนุภาพ ซามูล จะพุ่งทะยานเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากรุกคว้าอันดับที่ 3 ไปครองได้สำเร็จ พร้อมกับทำผลงานขึ้นยืนโพเดี้ยมเป็นครั้งแรกให้ Yamaha Thailand Racing Team จากการลงชิงชัยรุ่น Asia Production 250 cc. ในปีนี้อีกด้วย และ พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง และ พีระพงศ์ บุญเลิศ ก็สามารถตามเข้าเส้นชัยมาในอันดับที่ 5 และ 6 ตามลำดับ ส่วน รัฐพงษ์ บุญเลิศ ที่พลาดล้มในรอบที่ 7 ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดายหลังจากที่ขยับขึ้นมาเกาะติดกลุ่มนำได้สำเร็จแล้วด้วย
สำหรับในรุ่นใหญ่สุดของรายการ Asia Road Racing Championship 2015 ก็คือ รุ่น Supersports 600cc. โดยในรุ่นนี้ทีม Yamaha Thailand Racing Team ที่เคยเป็นแชมป์เมื่อปี 2007 กับ 2010 จากผลงานของ เดชา ไกรศาสตร์ และแชมป์ในปี 2009 จาก เฉลิมพล ผลไม้ ก่อนจะหันไปแข่งขันรายการออลเจแปน ก็ได้กลับเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้อีกครั้งในฐานะทีมเจ้าบ้านที่ได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ด ซึ่งการหวลกับสังเวียนชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้ทางทีม Yamaha Thailand Racing Team ก็จัดทัพนักบิดที่มีดีกรีแชมป์ “แชมป์ All Japan” และ “แชมป์ประเทศไทย” เข้าร่วมชิงชัยแบบเต็มสูบ นำทัพโดย เดชา ไกรศาสตร์ เจ้าของแชมป์เอเชีย 2 สมัยและแชมป์ออลเจแปน 1 สมัย พร้อมด้วย เฉลิมพล ผลไม้ ที่มีดีกรีแชมป์เอเชีย 1 สมัยและรองแชมป์ออลเจแปน รวมทั้งยังได้ อนุชา นาคเจริญศรี นักบิดดีกรีแชมป์ประเทศไทยแบบสดๆ ร้อนๆ และ เรียวจิ โคโยเอะ นักบิดชาวญี่ปุ่นของทีมยามาฮ่าที่พึ่งคว้าแชมป์ออลเจแปนคนล่าสุด ร่วมดวลความเร็วต่อกรกับคู่แข่งหวังทวงความยิ่งใหญ่ในรายการชิงแชมป์เอเชียให้กลับมาอยู่กับทีมยามาฮ่าประเทศไทยอีกครั้ง
บรรยากาศการชิงชัยของรุ่น Supersports 600cc. สนามสุดท้าย เริ่มระอุตั้งแต่รอบควอลิฟาย เมื่อ 3 นักบิด Yamaha Thailand Racing Team ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ว่าจะห่างหายจากการแข่งขันรายการนี้ไปพอสมควร โดย เดชา ไกรศาสตร์ สามารถกดคันเร่งทำเวลารั้งอันดับ 2 ในการออกสตาร์ทห่างจากตำแหน่งโพลโพซิชั่นเพียงแค่ 0.369 วินาที เท่านั้น รวมถึง เรียวจิ โคโยเอะ และ อนุชา นาคเจริญศรี ก็ทำเวลาในรอบควอลิฟายอยู่ในวินาทีเดียวกันกับผู้นำ และอยู่ในกริดสตาร์ทที่ 5 และ 8 ตามลำดับ ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่น่าพอใจ ส่วน เฉลิมพล ผลไม้ มีอาการบาดเจ็บที่หลังทำให้ไม่สามารถลงทำการควอลิฟายได้ และต้องถอนตัวออกจากเกมการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย
ทันทีที่การแข่งขันในเรซแรกของรุ่น Supersports 600cc. เริ่มขึ้นฝูงรถแข่งซูเปอร์ไบค์ต่างทะยานออกตัวอย่างรวดเร็ว เสียงเครื่องยนต์คำรามลั่นสนามช้าง กระตุ้นต่อมอะดีนาลีนให้กองเชียร์ชาวไทยอย่างเต็มที่ โดย เดชา ไกรศาสตร์ นักบิด Yamaha Thailand Racing Team โชว์ฟอร์มเก๋าทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 2 ได้สำเร็จเมื่อผ่านรอบแรกไปได้ โดยที่ผู้นำเป็น ยิกิ ทาคาฮาชิ นักบิดญี่ปุ่น ส่วน เรียวจิ โคโยเอะ และ อนุชา นาคเจริญศรี รั้งอยู่ในอันดับที่ 7 และ 9 ตามลำดับ เกมการชิงชัยในกลุ่มผู้นำเดือดระอุเมื่อนักบิดในกลุ่มนำต่างงัดฝีมือออกมาสู้กันแบบเต็มที่ ในรอบที่ 4 เดชา ไกรศาสตร์ และ เรียวจิ โคโยเอะ ขยับแซงนักแข่งจากอินเดีย Ahmad Yudhistiraหมายเลข 33 มารั้งที่ 2 และ 3 ได้สำเร็จ ส่วน อนุชา นาคเจริญศรี ก็ขยับแรงขึ้นมาอยู่อันดับที่ 6 เกาะติดกลุ่มนำได้สำเร็จเช่นกัน
แต่ในรอบที่ 5 กองเชียร์ Yamaha Thailand Racing Team ก็ใจหายว๊าบเมื่อรถแข่งของ เดชา ไกรศาสตร์ เกิดปัญหาทางเทคนิคจนต้องวิ่งกลับเข้าพิท และเสียเวลาไปพอสมควรก่อนที่จะออกมาวิ่งได้อีกครั้ง ส่วน เรียวจิ โคโยเอะ ที่พยายามกดคันเร่งแบบเต็มกำลังก็พลาดท่าล้มจนต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้เหลือเพียง อนุชา นาคเจริญศรี ที่มาแบบเต็มคันเร่งจนรั้งอยู่อันดับ 2 เพียงคนเดียวที่มีลุ้นในเรซแรกนี้ โดยที่ต้องขับเคี่ยวอยู่กับ Ahmad Yudhistiraหมายเลข 33 ที่เกาะติดแบบไม่ห่างและสามารถขยับแซงนักแข่ง Yamaha Thailand Racing Team ขึ้นไปอยู่อันดับ 2 แทนได้สำเร็จ
จากนั้น อนุชา นาคเจริญศรี ก็เกาะติด และพยายามหาจังหวะขยับแซง Ahmad Yudhistiraหมายเลข 33 อยู่ตลอดเวลา ทำให้กองเชียร์ชาวไทยของ Yamaha Thailand Racing Team ลุ้นกันแบบสุดตัวในทุกรอบการแข่งขันที่เหลืออยู่ และในรอบสุดท้ายช่วงโค้งที่ 9-11 ซึ่งเป็นโค้งต่อเนื่อง อนุชา นาคเจริญศรี จะขยับแซงผ่านนักแข่งอินเดียขึ้นมาได้ และยกคันเร่งได้ลึกกว่าในโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย ทำให้ อนุชา นาคเจริญศรี นักบิดจาก Yamaha Thailand Racing Team พุ่งทะยานเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากรุกในอันดับที่ 2 ได้สำเร็จ ชนิดที่สะใจกองเชียร์ยามาฮ่า และชาวไทยทั้งสนาม และเป็นโพเดี้ยมแรกของที่ Yamaha Thailand Racing Team หลังจากที่ห่างหายจากการแข่งขันรายการนี้ไปตั้งแต่ 2012 โดยที่แชมป์ในเรซแรกเป็นของ ยูกิ ทาคาฮาชิ ที่คว้าแชมป์ประจำปีในรุ่นนี้ไปครองได้สำเร็จอีกด้วย ส่วน เดชา ไกรศาสตร์ ที่กลับลงมาแข่งต่อได้นั้นก็โชว์สปิริตวิ่งผ่านธงตราหมากรุกได้ในอันดับที่ 20 แต่ยังมีโอกาสแก้มือในการแข่งขันเรซสองอีกครั้ง
