web analytics

ติดต่อเรา

CPL เผย 9 เดือนแรกปี 58 โกยรายได้กว่า 1.8 พันล้าน

นายสุวัชชัย วงษ์เจริญสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.แอล.กรุ๊พ จำกัด (มหาชน) หรือ CPL ผู้นำอุตสาหกรรมฟอกหนังสำเร็จรูปรายใหญ่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นกิจการในกลุ่มบริษัทเจริญสิน เปิดเผยผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคมถึงกันยายน) ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,819.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.86 ล้านบาท คิดเป็น 3.11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,764.45 ล้านบาท โดยมีกำไรขั้นต้น 209.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 16.66% เมื่อเทียบปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 179.35 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯ มีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 21.44 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 55.89 ล้านบาท ลดลง 22% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 71.70 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2558 (กรกฎาคมถึงกันยายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 525.82 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.75 ล้านบาท โดยกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 68.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

รองกรรมการผู้จัดการ CPL กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงมีอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ โดยสามารถรับรู้รายได้จากการขายได้มากกว่า 1.8 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าน่าพอใจ เพราะสะท้อนถึงคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกจะมีความไม่แน่นอนสูง แต่อุตสาหกรรมเครื่องหนัง โดยเฉพาะรองเท้า ยังคงเติบโตไปได้เรื่อยๆ จากความต้องการซื้อของผู้บริโภคทั่วโลก
“ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า เราไม่ได้ห่วงเรื่องคำสั่งซื้อว่าจะลดลงหรือหายไปเลย เพราะจะเรียกว่า เป็นธรรมชาติของอุตสาหกรรมฟอกหนังก็ได้ ที่เราไม่ได้เติบโตอย่างหวือหวา แต่เราก็ไม่ได้รับผลกระทบจากความตกต่ำหรือการชะลอตัวของเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ในทางกลับกัน เราสามารถที่จะโตไปได้เรื่อยๆ รับออเดอร์ไปได้เรื่อยๆ เนื่องจากรองเท้าเป็นเครื่องใช้ที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคู่หลักค้าที่มีความสัมพันธ์เหนียวแน่นกับ CPL เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่เป็นแบรนด์ยอดนิยมของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสที่ 3 ซึ่งมีความผันผวนมาก เป็นประเด็นหลักที่ทำให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ ลดลง แต่ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ก็ทำให้ที่ผ่านมา บริษัทฯ ก็สามารถปรับตัวรองรับได้เป็นลำดับ ดังนั้น จึงเชื่อว่า การบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนหลังจากนี้ จะมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ”

รองกรรมการผู้จัดการ CPL กล่าวด้วยว่า หากไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน จะเห็นว่า ผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัทฯ น่าพอใจมาก เพราะมีการเติบโตของรายได้ พร้อมๆ กับการลดลงของค่าใช้จ่ายต้นทุนขาย ซึ่งการควบคุมค่าใช้จ่ายถือเป็นกลยุทธ์หลักในการทำธุรกิจในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง และเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ทั้งนี้ จากการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นถึง 15% ส่วนงวด 9 เดือนเพิ่มขึ้นกว่า 16%

สำหรับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนนั้น นายสุวัชชัยกล่าวว่า CPL ไม่มีความกังวลใจว่าจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากจีนอยู่ในฐานะฐานการผลิตของคู่ค้าที่สั่งซื้อหนังฟอกกึ่งสำเร็จรูปจากบริษัทฯ ดังนั้น หากเศรษฐกิจจีนประสบปัญหา ก็จะกระทบกับฐานการผลิต ไม่ได้กระทบกำลังซื้อ ที่ส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกาและยุโรป ซึ่งมีแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ เมื่อกำลังซื้อยังคงมีอยู่ แต่ฐานการผลิตที่จีนมีปัญหา คู่ค้าก็ยังคงต้องสั่งซื้อหนังฟอกกึ่งสำเร็จรูปจากทาง CPL โดยอาจจะใช้ฐานการผลิตในประเทศอื่นๆ

“ณ ปัจจุบันนี้ เราไม่ได้กังวลเรื่องคำสั่งซื้อจากลูกค้าแบรนด์หลัก แต่ยอมรับว่า กังวลเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม เมื่อผ่านมาระยะหนึ่ง เราพบว่า เราสามารถบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งถือว่าน่าพอใจ หลังจากนี้โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 อาจจะต้องดูแลเรื่องการบริหารจัดการวัตถุดิบที่ต้องเร่งระบายสต๊อก พร้อมๆ กับดูแลเรื่องการผลิตให้สอดคล้องกับคำสั่งซื้อที่เป็นช่วงรอยต่อของไตรมาสสุดท้ายปีนี้ไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด”

Comments

comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *